“เรามาฝึกงานแค่ 3 เดือน เห็นปัญหาค่อนข้างเยอะ ข้อแรกคือ ความยากจน เรื้อรังต่อมาคือ คนไร้บ้าน เราเดินไปมุมไหน ไม่เห็นคนยากจนก็คนไร้บ้าน โดยเฉพาะแถวอนุเสาวรีชัย และป้อมปราบศัตรูพ่าย”
ฝน (นามสมมติ) นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง ที่เข้ามาฝึกงานใน กทม.ช่วงเวลาหนึ่งกล่าว
เธอยังเทียบว่า ที่ กทม. แตกต่างกับบ้านของเธอใน จ.ตากซึ่งแทบจะไม่ค่อยมีคนไร้บ้านเท่าไหร่
คนไร้บ้านนั้นเกิดจากหลายสาเหตุ แต่หากยึดตามคำอธิบายจากหนังสือ ‘โลกของคนไร้บ้าน’ ของ อ.บุญเลิศ วิเศษปรีชา จากคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คนไร้บ้านคือสภาพรุนแรงที่สุดของคนจนเมือง ซึ่งรวมไปถึงคนต่างจังหวัดที่เข้ามาในเมืองใหญ่เพื่อหวังหางานทำ แต่เมื่อเข้ามาแล้วไม่ได้งานเหมือนที่ตั้งใจ จะกลับบ้านก็ไม่มีเงินเหลือหรือจะกลับไปมือเปล่าก็กระไร จึงกลายเป็นคนไร้บ้านโดยปริยาย
ถึงแม้ฝนจะไม่มีสิทธิเลือกผู้ว่าฯ กทม. แต่เธอเป็นคนหนึ่งที่จะได้รับผลจากนโยบายของผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่แน่นอน จึงหวังว่าจะได้คนที่ “เข้าใจปัญหา และมีวิธีแก้อย่างเป็นรูปธรรม” ไม่ควรเป็นคนที่คิดเองเออเอง คิดว่าชุมชนนี้อยากได้แบบนี้แล้วทำเลย แต่ไม่เคยเข้าไปในพื้นที่เพื่อถามเขาจริงๆ ว่าต้องการอะไร
“คนใน กทม. ค่อนข้างมีหลายชนชั้น คนจนก็มีหลายชนชั้น ชนชั้นกลางก็มีหลายชนชั้น ชนชั้นสูงเองก็ด้วย แต่เรามองว่าการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนใน กทม. ต้องเข้าใจว่าคนจนเยอะที่สุด และควรจะให้ความสำคัญกับคนจนและชนชั้นล่างมากที่สุดด้วยเช่นกัน” ฝนในฐานะนักเรียนสายสังคมศาสตร์กล่าว
ก่อนจากกัน เธอทิ้งท้ายถึง motto ที่ว่า ‘กทม. ชีวิตดีๆ ที่ลงตัว’ อย่างขบขันว่า “ชีวิตดีๆ ที่ลงตัวต้องถามกลับว่าอะไรลงตัวคะ(หัวเราะ)” เพราะเมื่อเทียบกับ จ.ตาก หลายๆ อย่างใน กทม. จะดีกว่ามากทั้งการคมนาคม การเข้าถึงโอกาสการศึกษา พื้นที่สาธารณะ ฯลฯ แต่มันอาจจะไม่ใช่ชีวิตดีๆ ที่ลงตัว หรือจะลงตัวแค่กับบางคนหรือเปล่า
- ติดตามซีรีส์เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ของ The MATTER ได้ที่: https://thematter.co/category/bkk65
#BKK65 #Quote #เลือกตั้งผู้ว่ากทม #ความยากจน #TheMATTER