วันนี้ (7 ธันวาคม) สื่อต่างประเทศหลายแห่งรายงานตรงกันว่า เจ้าหน้าที่พิเศษเยอรมนีกว่า 3,000 ราย ปฏิบัติการบุกจับกุมกลุ่มคน 25 คนจาก 11 รัฐทั่วประเทศ เหตุต้องสงสัยว่าเป็นสมาชิก/สนับสนุน องค์กรก่อการร้ายภายในประเทศ ที่วางแผนรัฐประหาร–ล้มล้างรัฐ
ทางการเยอรมนีระบุว่า เครือข่ายนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มขวาจัดสุดโต่ง และวางแผนมาอย่างดีเพื่อล้มรัฐเยอรมนีโดยกองกำลัง และหวังจะจัดตั้งรัฐบาลใหม่ขึ้น ซึ่งสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งรายงานตรงกันว่า กลุ่มคนเหล่านี้ คือ กลุ่มขวาจัดและอดีตพลทหาร ที่วางแผนจะทำลายอาคารไรส์ทาค (Reichstag) ซึ่งเป็นอาคารรัฐสภาของเยอรมนี เพื่อเข้ายึดอำนาจรัฐบาล
ปฏิบัติการบุกจับนี้ ถูกประกาศโดย มาร์โก บุชมัน (Marco Buschmann) รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมของเยอรมนี เขาเผยว่า ปฏิบัติการบุกจับกุมเกิดขึ้นกับคนที่ถูกต้องสงสัยว่าวางแผนโจมตีประเทศด้วยอาวุธ
บุชมันทวีตข้อความด้วยว่า “ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายครั้งใหญ่ได้เริ่มขึ้น สำนักงานอัยการกลางกำลังสืบสวนเครือข่ายก่อการร้ายที่น่าสงสัยจากกลุ่มพลเมืองแห่งไรชส์”
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ชาวเยอรมนีที่เรียกตัวเองว่า ‘เจ้าชายเฮนริชที่ 8’ วัย 71 ปี ถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวบงการแผนการนี้ ซึ่งข้อมูลจากอัยการรัฐบ่งชี้ว่า เขาคือหนึ่งคนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแกนนำของกลุ่มคนที่ถูกบุกจับกุม
กลุ่มที่วางแผนก่อรัฐประหารขับเคลื่อนภายตายชื่อ ‘พลเมืองแห่งไรชส์’ (Citizens of the Reich) ซึ่งเป็นกลุ่มหัวรุนแรงที่ทางการเยอรมนีจับตามายาวนาน เพราะมีประวัติก่อเหตุร้ายแรง มีแนวคิดเหยียดเชื้อชาติ และปฏิเสธความเป็นเยอรมนีสมัยใหม่
ทั้งนี้ อัยการกลางรายงานว่า กลุ่มพลเมืองแห่งไรชส์วางแผนก่อรัฐประหารตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2021 ซึ่งมีอดีตทหารระดับสูงของกองทัพเป็นส่วนสำคัญของแผนการรัฐประหารด้วย
ขณะนี้ มีชาวเยอรมนีอย่างน้อย 22 รายถูกควบคุมตัวด้วยข้อหา “เป็นสมาชิกในองค์กรก่อการร้าย” ในขณะที่อีก 3 ราย (1 ในนั้นเป็นชาวรัสเซีย) ต้องสงสัยว่าสนับสนุนองค์ดังกล่าว ซึ่งสำนักข่าว The New York Times รายงานว่า ผู้คนจำนวนมากที่ถูกจับผ่านการฝึกฝนทางทหารมาก่อน นอกจากนี้ยังมีมีอดีตทหารเยอรมนีอยู่ด้วย ที่พิเศษกว่านั้น คือ มีทหารที่เคยอยู่ในกองกำลังของเยอรมนีตะวันออกด้วย
อ้างอิงจาก
