‘กรณีตากใบ’ ถือเป็นหนึ่งใน ‘ประวัติศาสตร์บาดแผล’ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นแผลลึกที่อยู่ในใจใครหลายๆ คนโดยเฉพาะคนในพื้นที่ แต่เมื่อถึงวันครบรอบก็จำเป็นที่เราจะต้องหยิบมาพูดถึงกัน เพื่อแสดงความเคารพต่อผู้สูญเสีย และทบทวนบทเรียนในอดีต ไม่ให้ความสูญเสียเดิมๆ กลับมาเกินซ้ำ
กรณีตากใบ คืออะไร? กล่าวโดยสรุป ก็คือกรณีสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 85 คน บาดเจ็บอีกนับร้อย และมีผู้ถูกจับกุมราว 1,370 คน โดยเหตุเกิดหน้า สภ.อ.ตากใบ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส แต่ความสูญเสียจำนวนมาก เกิดระหว่างขนย้ายคนไปยังค่ายทหาร
เหตุเกิดขณะมีนายกรัฐมนตรี ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร
25 ตุลาคม พ.ศ.2547 เกิดเหตุชุมนุมหน้า สภ.อ.ตากใบ เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) จำนวน 6 คนที่ถูกกล่าวหาว่าส่งมอบอาวุธให้ผู้ก่อความไม่สงบ มีการปาสิ่งของ เช่น ก้อนหิน เศษไม้ เข้าใส่เจ้าหน้าที่ และพยายามจะบุกเข้าไปในสถานีตำรวจ เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงจึงใช้การฉีดน้ำ แก๊สน้ำตา และใช้อาวุธจริงยิงตอบโต้
มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 6 ราย ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย ที่น่าสลดก็คือมีผู้เสียชีวิตระหว่างถูกจับกุมและนำตัวไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ที่อยู่ห่างออกไปราว 150 กิโลเมตร โดยรถบรรทุกทหาร 26-28 คัน ที่ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ถึง 78 คน
ลักษณะการเสียชีวิต ผลชันสูตรพบว่า หลายคนขาดอากาศหายใจ ถูกกดทับที่หน้าอก ซึ่งสันนิษฐานว่าเกิดจากการนอนซ้อนทับกันระหว่างขนย้ายไปยังค่ายทหาร
หลังเกิดเหตุ มีการออกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 335/2547 ลงวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ.2547 แต่งตั้ง ‘คณะกรรมการอิสระสอบข้อเท็จจริงกรณีมีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส’ โดยมีพิเชต สุนทรพิพิธ เป็นประธาน ก่อนสรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง และชี้ว่า เจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง เช่น พล.ท.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี แม่ทัพภาคที่ 4 ขณะนั้น, พล.ต.สินชัย นุตสถิตย์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ขณะนั้น, พล.ต.เฉลิมชัย วิรุฬห์เพชร ผบ.พล.ร.5 ขณะนั้น ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ให้ดำเนินการสอบสวนทั้งทางวินัยและอาญา
นอกจากนี้ ยังสรุปว่า การใช้ทหารเกณฑ์และทหารพรานที่มีวุฒิภาวะไม่สูงพอเข้าสลายการชุมนุม เป็นวิธีการที่ไม่เหมาะสม พร้อมเสนอว่าหากเกิดเหตุที่ต้องสลายการชุมนุมเช่นนี้อีก ให้ใช้ชุดปราบจลาจลของตำรวจที่ได้รับการฝึกอบรมและมีเครื่องมือพร้อมเป็นกำลังหลัก ชุดปราบจลาจลของทหารเป็นกำลังเสริม และห้ามติดอาวุธ
ขณะที่รัฐบาลขณะนั้น มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 9/2548 ลงวันที่ 6 มกราคม พ.ศ.2548 แต่งตั้ง ‘คณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายจากกรณีตากใบ’ โดยมีรุ่ง แก้วแดง เป็นประธาน ให้จ่ายเงินเยียวยา กรณีเสียชีวิต รายละ 300,000 บาท กรณีสูญหาย รายละ 300,000 บาท แต่ให้จ่ายเพื่อพ้นหนึ่งปี และกรณีบาดเจ็บ 20,000-80,000 บาท ตามความหนักเบาแห่งอัตราการบาดเจ็บ
อย่างไรก็ตาม ญาติผู้เสียชีวิตบางส่วนเดินหน้าฟ้องร้องศาลขอให้เงินเยียวยาเพิ่มเติม แต่เนื่องจากคดีใช้เวลายาวนาน หลายคนจึงยินยอมที่จะไกล่เกลี่ยประนีประนอมยอมความ โดยกระทรวงกลาโหมจ่ายเงินสินไหมชดเชยรวม 42 ล้านบาทให้กับญาติผู้สูญเสีย 79 คน
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี เคยกล่าวคำขอโทษต่อหน้าญาติผู้สูญเสียจากกรณีตากใบ เมื่อปลายปี พ.ศ.2549
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://www.amnesty.org/en/documents/pol10/0001/2005/en/
https://themomentum.co/14-years-tak-bai-incident/
https://resolution.soc.go.th/PDF_UPLOAD/2548/2031613.pdf
https://deepsouthwatch.org/th/node/39
#Brief #TheMATTER