ถ้าถามว่ารู้จักบริษัท ‘เทนเซนต์’ (Tencent) ไหม? หลายคนอาจจะส่ายหัวงงว่าอะไร แต่ถ้าถามว่า รู้จัก Joox หรือ PUBG หรือเปล่า? หลายคนคงส่งเสียงตอบพร้อมเพรียงว่ารู้สิ! ใช้อยู่ เล่นอยู่ เป็นประจำ
เทนเซนต์ คือบริษัทผู้ผลิตและผู้พัฒนาแอปพลิเคชันดังทั้ง 2 ตัวข้างต้นที่เข้ามาวนเวียนในชีวิตคนไทยอยู่หลายปี ภายใต้การนำของ ‘กฤตธี มโนลีหกุล’ Managing Director แห่ง Tencent
จากวิศวโยธา สู่ MD ประเทศไทย ของบริษัทเทคโนโลยีใหญ่แดนมังกร เขาคือผู้อยู่เบื้องหลังการพลิก สนุกดอทคอม (snook.com) สู่แพลตฟอร์มฟังเพลง (Joox) เกมมิ่ง (PUBG) สตรีมมิ่ง (WeTV) และบริการคลาวน์ ตอบรับทุกความต้องการผู้บริโภคไทยอย่างครบวงจร ทุกด้านของชีวิต
กฤตธี มโนลีหกุล ผ่านการทำงานมา 3 ประเทศ สหรัฐอเมริกา เกาหลี และฮ่องกง หลังจบการศึกษาวิศวโยธาจากอเมริกาในปี 2542 เขาเริ่มทำงานตำแหน่ง Senior Consultant วิศวกรให้คำปรึกษา ที่ American Management Systems ประเทศสหรัฐอเมริกา นับจุดเริ่มต้นเส้นทางการทำงานสายเทคโนโลยี
แต่งานแรกก็เจอดีเลย “ตอนนั้นมันเกิดเหตุการณ์ Y2K ตอนที่ dotcom bubble แตกพอดี กลายเป็นว่าลูกค้าที่เป็นบริษัทเทคโนโลยีหายไปหมดเลย เราทำงานแรกแต่ไม่มีลูกค้า ก็ต้องรออยู่สักพักกว่าเขาจะเรียกตัวเข้าไปทำประจำกับโปรเจกต์หนึ่ง”
แล้วรับมือกับความสั่นคลอนแรกของงานที่ทั้งตื่นเต้นทั้งดีใจยังไง – เราถามต่อ “เราคิดว่าวิกฤตเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานนะ มันเป็นปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้ แถมตอนนั้นพอจบ Y2K ก็เจอ 9/11 ต่อ ฉะนั้นสามปีแรกในการทำงาน ทำให้รู้สึกว่ามีหลายอย่างที่เราควบคุมไม่ได้ แต่สิ่งที่ควบคุมได้คือการหาความรู้ไปเรื่อยๆ ครับ”
หลังจากอยู่สหรัฐอเมริกามา 16 ปีเต็ม และเรียนจบ MBA, ปี 2549 เขาลองยื่นตำแหน่ง Global Strategist ที่ Samsung ก่อนได้รับโอกาสและย้ายไปใช้ชีวิตและทำงานอยู่ประเทศเกาหลี
“ปัจจัยในการตัดสินใจมีอยู่สามอย่าง หนึ่งคือโลเคชั่น เราอยากกลับมาใกล้ๆ บ้าน แต่สมัยนั้นไทยยังไม่มีบริษัทเทคโนโลยีมากนัก ก็เลยต้องกลับมาในประเทศอื่นก่อน สองคือเราอยากจะทำอุตสาหกรรมเทคโนโลยี อยากทำบริษัทเทคโนโลยีนี่แหละ สามคือฟังก์ชั่นการทำงานที่อยากทำเกี่ยวกับการวางแผนไม่ก็การตลาด” กฤตธี ย้อนเล่าให้ฟัง ปีนี้เทคฯ ในเอเชียเริ่มบูมพอดี กฤตธีมองว่าเขาอยากเปิดโอกาสการเติบโตให้ตัวเองในพื้นที่ใหม่
จากนั้น ชีวิตของอดีตนักเรียนวิศวกรโยธาก็ไม่เคยหวนกลับไปสายที่เขาเรียนจบปริญญาใบแรกอีกต่อไป, ปี 2551 เขาได้ย้ายประเทศอีกครั้งมายังฮ่องกง เพื่อทำงานในตำแหน่ง Business Development Director และ Partner Services Group ที่ Expedia หลังจากไม่แน่ใจว่า Samsung จะเทรนนิ่งและส่งเขากลับมาประจำบ้านเกิดเมื่อไหร่
“ผมได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เยอะมากโดยเฉพาะเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต – Samsung เป็นบริษัทอุปกรณ์เทคโนโลยี แต่ Expedia คือบริการที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต เลยได้เรียนรู้ อี-คอมเมิร์ซ เรียนรู้ transaction ที่เกิดขึ้น มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เราทำโปรโมชั่นอะไรก็เห็นผลจองได้ทันที ฉะนั้นเราต้องเปลี่ยน ปรับ เปลี่ยนแล้วก็ปรับตลอดเวลา” เขาตอบคำถามว่า ได้อะไรจากการทำงานในประเทศที่สามของเขา
และในปี พ.ศ.2555 เขาก็ได้ฤกษ์กลับประเทศไทยเสียที “เรารู้สึกเริ่มอยู่ตัวแล้ว ผมกำลังจะได้เลื่อนขั้นแต่ว่า Expedia อยากให้ผมกลับไปที่อเมริกาหรือไม่ก็ย้ายไปสิงคโปร์ ซึ่งตอนนั้นเราอยู่ฮ่องกง แล้วเราก็แฮปปี้กับการอยู่ฮ่องกงมาก ก็เลยรู้สึกว่า แทนที่จะต้องย้ายไปประเทศอื่น ถ้าอย่างนั้นเราขอสำรวจที่อื่นดีกว่าไหม ก็บังเอิญไปเจอกับ Tencent”
ซึ่งตอนนั้นเป็นบริษัทแพลตฟอร์มจีนที่ไม่มีใครรู้จักเลยด้วยซ้ำ แต่ที่เราเซอร์ไพรส์นิดหนึ่งเพราะกฤตธีเล่าว่า เขาตัดสินใจรับตำแหน่งที่เทนเซนต์ เพราะการเข้าซื้อกิจการ sanook.com “ในฐานะที่เราโตอเมริกา เราก็ติดตามข่าวสารเมืองไทยผ่าน sanook.com ตั้งแต่เด็กๆ ก็เลยคิดว่าเรามีความรู้ในเรื่องนี้ เพราะเราใช้โปรดักต์มาตลอด บวกกับว่าตอนนั้นยังไม่ค่อยมีบริษัทเทคโนโลยีในเมืองไทย แล้วคนที่จะทำงานด้านนี้ในเมืองไทยยังมีน้อย เรามีประสบการณ์จากอเมริกา มีประสบการณ์จากทั่วโลก ถ้าเรากลับมาที่นี่ก็จะช่วยพัฒนาบริษัท พัฒนาเทคโนโลยีในบ้านเราต่อไปได้ ก็เลยคิดว่าเป็นความท้าทายที่น่าสนใจ”
หลังจากวันนั้น เขานั่งเก้าอี้ Managing Director ที่ Tencent Thailand จนถึงปัจจุบัน
นับๆ นิ้วไปก็เกือบ 10 ปีแล้วที่กฤตธีเข้ามานั่งบริหาร พร้อมขยายกิจการเทนเซนต์อีกหลายขา เราลองถามเขาถึงคำว่า ‘ผู้บริหาร’ สายเทคโนโลยี ว่าต้องมีอะไรบ้าง และควรจะโดดเด่นด้านไหน?
แม้เขาจะมีโนว์ฮาวการทำงานจากหลายประเทศ แต่เขาก็บอกว่า “ประเทศไทยก็ไม่ได้เหมือนประเทศอื่นๆ ในเอเชีย เราต้องเอาโมเดลทางธุรกิจมาปรับให้เข้ากับคนไทย ส่วนเรื่อง execution ก็ยังคงต้องทำงานเป็นระบบ แต่ไม่ใช่เป็นระบบมากเกินไปจนไม่ได้มีเวลาให้พนักงานได้คิด เพราะว่าธุรกิจของเราเป็นธุรกิจ entertainment มันต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์สูงมาก ระบบการทำงานต้องมีเวลาให้พนักงานคิดด้วยว่าจะสร้างสรรค์ยังไง” นอกจากนั้นในฐานะหัวเรือใหญ่ เขาตกตะกอนได้ว่า หัวหน้าที่ดี ข้อสำคัญที่สุดที่ควรมีคือ การสื่อสารให้ชัดเจน และเรียนรู้ไม่สิ้นสุด
“ทำงานบริษัทเทคโนโลยีต้องปรับตัวเร็ว ต้องสื่อสารวิสัยทัศน์ให้ทีมเข้าใจ เพราะว่าการที่เราปรับเปลี่ยนเร็วนั้น บางทีคนตามเราไม่ทัน เราต้องมีการสื่อสารที่ดีกับทีม ต้องเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ ให้เร็วขึ้น เราต้องเข้าใจธุรกิจหลายอย่าง เพราะ Tencent Thailand เองก็ไม่ได้มีแค่ธุรกิจเดียว”
ทุกวันนี้แม้เทนเซนต์จะพิสูจน์ความสำเร็จไปหลายด้าน (และทั่วโลก) กฤตธีก็ยังถ่อมตัวว่าเขาก็ยังต้องฝึกฝนให้เป็นผู้นำที่ดีกว่านี้ “ตัวผมเองมี executive coach ที่จะเจอกันเดือนละครั้ง เพื่อให้เขาโค้ชเราในฐานะที่เราเป็นหัวหน้า เราก็ต้องถูกคนอื่นโค้ชว่ามีอะไรที่เราบกพร่อง ก็ต้องเปิดใจและยอมรับในสิ่งที่คนอื่นฟีดแบคกลับมาหาเราด้วย”
ถามคำถามสุดท้ายก่อนโบกมือลา – เราแอบถาม MD คนเก่งแห่งเทนเซนต์ว่า จะมีสักวันไหมที่เขาจะหยุดสนใจด้านเทคโนโลยี “เทคโนโลยีซึ่งเป็นแพสชั่นส่วนตัวของเราอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราก็อยากจะเรียนรู้มันต่อไปเรื่อยๆ อยากเอาประสบการณ์ที่เราสั่งสมมา มาช่วยพัฒนาธุรกิจนี้ให้เติบโตต่อไปในบ้านเรา รวมไปถึงภูมิภาคนี้”
ต่อด้วย“ถ้าเราพูดกับตัวเองตลอดเวลาว่า passion คือเทคโนโลยี หรือแพสชั่นคืออะไรสักอย่าง มันจะทำให้ตัวเองเชื่อ จนถึงตอนนี้มันกลายเป็นจิตวิญญาณของผมไปแล้ว”
Photo by Supanat Chatchawansirachai
#tencent #interview #TheMATTER