คุณคิดว่าปีศาจมีจริงหรือไม่? ในทางกลับกัน คุณคิดว่างานวิจัยชิ้นไหนมีหัวข้อแปลกประหลาดที่สุดเท่าคุณเคยได้ยินมา? คุณรู้ไหมว่า ทั้งเรื่องราวของปีศาจกับงานวิจัยกลับกลายเป็นหลักสูตรที่มีการเรียนการสอนตามมหาวิทยาลัยแล้ว เพราะในญี่ปุ่น คุณยายวัย 73 ปี เพิ่งจะได้รับปริญญาเอก จากงานวิจัยศึกษาปีศาจ และนิทานปรัมปราพื้นบ้านของญี่ปุ่นเมื่อไม่นานมานี้
มิซาโกะ นากูระ (Misako Nagura) เพิ่งจะได้รับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยประจำจังหวัดไอจิ หลังจากเธอเริ่มเรียนปริญญาตรีด้านวรรณกรรม เมื่อเธอมีอายุได้ 54 ปี โดยวุฒิปริญญาเอกที่นากูระเพิ่งจะได้มาในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมานี้ ถูกวางหัวข้อวิจัยอยู่บนเรื่อง ‘ค่ำคืนแห่งขบวนแห่ปีศาจร้อยตน’ ซึ่งเป็นนิทานปรัมปราพื้นบ้านของญี่ปุ่น ที่พูดถึงขบวนแห่ของปีศาจ หรือ โอนิและโยไก นากูระเปิดเผยเพิ่มเติมว่า เธอทำงานวิจัยชิ้นนี้ก็เพราะมันเป็นประเด็นที่เธอสนใจ และมันได้นำความสุขอันชุ่มชื่นหัวใจมาสู่ชีวิตของเธอ
นากูระเริ่มตั้งหัวข้อวิจัยตั้งแต่ช่วงหลังจบปริญญาตรีใน ค.ศ.2006 ก่อนจะเริ่มเรียนปริญญาโทต่อใน ค.ศ.2009 เพื่อสืบสานความรักในหัวข้อวิจัยที่เธอมีต่อไป “มหาวิทยาลัยสอนให้ฉันได้รักที่จะเรียนรู้ต่อไปเรื่อยๆ ตลอดชีวิตอันแสนสุขของฉัน” เธอกล่าวเสริมอีกว่า “ยังมีบางส่วนนอกงานวิจัยที่ฉันยังไม่ได้ตีพิมพ์นะคะ และฉันอยากเขียนเอกสารเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ออกมาเพิ่มเติมมากๆ”
เหตุที่นากูระเพิ่งจะได้มาเรียนปริญญาเมื่อเธอมีอายุมากก็เพราะ เธอประสบกับความป่วยไข้ในช่วงจบการศึกษาระดับมัธยม ชีวิตของเธอจึงหันเหไปเป็นผู้ช่วยในโรงเรียนอนุบาล ก่อนจะไปทำงานในร้านขายเฟอร์นิเจอร์ แต่แล้ว ในขณะที่เธอมีอายุได้ 53 ปี เธอได้ตัดสินใจที่จะเพิ่มเป้าหมายความท้าทายให้กับตัวเอง หลังจากที่เธอได้ยินว่ามีการสอบเพื่อเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย สำหรับนักศึกษาสูงวัย นากูระพูดย้อนถึงความคิดของเธอในตอนนั้นว่า “ข่าวนี้ได้ชุบชีวิตของฉันขึ้นมาอีกครั้งเลยล่ะค่ะ”
นากูระเล่าถึงบรรยากาศตอนที่เธอได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยตามที่เธอใฝ่ฝันว่า “ฉันลืมอายุของฉันไปเลยค่ะ แถมยังรู้สึกสนุกมากๆ ที่ได้พูดคุยกับคนอายุน้อยๆ”
การศึกษาในหัวข้อวิจัยที่เกี่ยวกับปีศาจในตำนานพื้นบ้านของนากูระไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะเรื่องดังกล่าวมีคนศึกษาน้อยมาก แต่ด้วยความชาญฉลาดของเธอ นากูระได้นำเรื่องขบวนแห่ปีศาจร้อยตนมาเปรียบเทียบกับพุทธศาสนาในญี่ปุ่น จนเธอได้แสดงให้เห็นเส้นคู่ขนานระหว่างความเชื่อเรื่องผีและปีศาจพื้นบ้าน กับวิถีแบบพุทธที่เป็นเส้นขนานลากประสานกันไปในสังคมญี่ปุ่น
The Japan Times รายงานว่า งานวิจัยที่แหลมคมนี้ ทำให้เธอต้องบินข้ามประเทศเพื่อไปนำเสนอผลงานวิจัยของเธอกันเลยทีเดียว นากูระเคยเล่นมุกขณะการนำเสนองานวิจัยในบราซิล เมื่อ ค.ศ.2016 ว่า “ขอบคุณโปเกมอนนะคะ พวกมันเป็นปีศาจของญี่ปุ่นที่น่าสนใจมากๆ เลยล่ะ”
ถึงแม้ว่านากูระจะเรียนจบจากมหาวิทยาลัยไปแล้วก็ตาม แต่เธอยังคงเขียนงานต่างๆ ที่มีหัวข้อเกี่ยวกับปีศาจในนิทานปรัมปราพื้นบ้านมาจนถึงปัจจุบัน นากูระเปิดเผยพร้อมเสียงหัวเราะว่า หลานๆ ของพวกเธอต่างประหลาดใจไปตามๆ กัน เมื่อรู้ว่ายายของพวกเขาเขียนงานวิจัยในหัวข้อเกี่ยวกับปีศาจ
เรอิ คูฟูกิฮาระ (Rei Kufukihara) อธิการบดีและที่ปรึกษางานวิจัยของนากูระเปิดเผยว่า ถึงแม้ว่านากูระจะประสบความยากลำบาก เพราะเอกสารอ้างอิงในหัวข้องานวิจัยด้านปีศาจของเธอนั้นหายากมาก “การทำงานวิจัยด้วยเครื่องมือต่างๆ โดยที่ไม่มีงานเขียนดั้งเดิมนั้นแทบจะใกล้เคียงกับคำว่า ‘เป็นไปไม่ได้’ แต่คุณนากูระก็ทำมันได้จนสำเร็จ ก็ด้วยการมีใจรักของเธอล้วนๆ”
อ้างอิงจาก
https://www.japantimes.co.jp/news/2020/12/03/national/grandmother-doctorate-yokai/
https://publicdomainreview.org/collection/night-parade-of-one-hundred-demons
#Brief #TheMATTER