ถึงแม้ว่าเว็บไซต์หนังผู้ใหญ่อย่าง Pornhub จะถูกทางการไทยระงับการเข้าถึงไปแล้วตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าเว็บไซต์หนังผู้ใหญ่เจ้ายักษ์จะยังไม่พ้นประเด็นดราม่าต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเผยแพร่คลิปวิดีโอล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กลงบนเว็ปไซต์ของพวกเขา ที่เป็นข้อกล่าวหาใหญ่ที่สุด
เราคงได้เห็นข่าวคราว (และข่าวคาว) เกี่ยวกับเว็บไซต์หนังผู้ใหญ่สัญชาติแคนาดาเจ้านี้กันอยู่เนืองๆ อย่างไรก็ตาม เรายังคงไม่ทราบแน่ชัดว่าทิศทางของเรื่องดังกล่าวจะลงเอยอย่างไร แต่ความคืบหน้าในรอบเดือนที่ผ่านมานี้ จากการที่ Pornhub ได้เจอกับมรสุมลูกใหญ่ บนข้อหาการเผยแพร่วิดีโอล่วงละเมิดทางเพศเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี The MATTER ขอนำทุกคนไปย้อนดูตั้งแต่วันแรกที่เรื่องราวเหล่านี้ถูกเปิดโปงขึ้น จนมาสู่วันนี้ วันที่เว็บไซต์ Pornhub กำลังเจอปัญหาใหญ่ในทางธุรกิจ
1. เรื่องราวของมหากาพย์เว็บไซต์หนังผู้ใหญ่เจ้าดังแห่งนี้ เริ่มขึ้นในวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ.2020 เมื่อคอลัมนิสต์ของ The New York Times อย่าง นิโคลาส คริสตอฟ (Nicholas Kristof) ได้เขียนความเห็นและแสดงข้อเท็จจริง ผ่านการบอกเล่าเรื่องราวถึงกรณีเด็กผู้หญิงที่ถูกข่มขืน และคุกคามทางเพศ ผ่านการถ่ายวิดีโอ และนำมาอัพโหลดลงบนเว็บไซต์ Pornhub โดยที่ Pornhub เองกลับไม่มีนโยบายคัดกรองวิดีโอเหล่านี้เท่าที่ควร
2. คริสตอฟกล่าวถึงเว็บไซต์นี้ ซึ่งมียอดผู้เข้าชมกว่า 3.5 พันล้านครั้งต่อเดือนว่า ภายใต้สถิติการเข้าชมที่สูงชะลูด “กลับซ่อนไปด้วยเนื้อหาวิดีโอที่มีการข่มขืน เว็บไซต์นี้ได้สร้างรายได้จากการข่มขืนเด็ก คลิปวิดีโอโป๊เปลือยที่ถูกปล่อยเพื่อแก้แค้น ภาพจากกล้องแอบถ่ายผู้หญิงกำลังอาบน้ำ เนื้อหาเหยียดเชื้อชาติและสตรี ตลอดจนวิดีโอผู้หญิงถูกทำให้ขาดอากาศหายใจในถุงพลาสติก มีการพิมพ์ค้นหาคำว่า ‘เด็กผู้หญิง ต่ำกว่า 18 ปี’ หรือ ‘14 ขวบ’ บนเว็บไซต์กว่าแสนครั้ง ถึงแม้ว่าผู้หญิงจำนวนมากไม่ใช่เด็ก แต่จำนวนไม่น้อยในนั้นเองคือเยาวชนทั้งนั้น”
3. บทความนี้ ยังได้ยกตัวอย่างที่น่าตกใจ ถึงกรณีการหายตัวไปของเด็กหญิงวัย 15 ปี ในฟลอริดา ก่อนที่แม่ของเธอจะพบวิดีโอของลูกสาวถูกข่มขืน โพสต์ลงบนเว็บไซต์ดังกล่าวกว่า 58 คลิป เช่นเดียวกับวิดีโอของเด็กหญิงวัย 14 ขวบ ที่ถูกข่มขืน แต่ผู้เข้าแจ้งความกลับเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเธอ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่จาก Pornhub เอง ซึ่งเป็นผู้ที่ควรจะรับผิดชอบต่อกรณีดังกล่าวในฐานะคนดูแลเว็บไซต์
4. เมื่อคอลัมน์ของคริสตอฟถูกเผยแพร่ออกไป กระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่อการดูแลและนโยบายของ Pornhub จึงระเบิดออกมาเพียงชั่วข้ามคืนว่า เหตุใด Pornhub จึงปล่อยให้วิดีโอที่มีเนื้อหาล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิง และเด็ก (ไม่เว้นแม้แต่ผู้ชาย และ LGBTQ) ออกมาบนเว็บไซต์ของตนเองได้
5. Pornhub ได้ออกมาแถลงต่อการวิพากษ์วิจารณ์ในครั้งนี้ว่า พวกเขาได้ว่าจ้างที่ปรึกษาทางกฎหมายเพื่อจัดทำการตรวจสอบที่เป็นอิสระออกจากเนื้อหาของเว็บไซต์เอง โดยพวกเขากล่าวว่าตนได้มีการทำความร่วมมือกับองค์กรที่ดูแลความปลอดภัยและสิทธิเด็กกว่า 40 องค์กร เข้ามาดูแลในเรื่องดังกล่าวโดยเฉพาะ โดย Pornhub กล่าวย้ำว่า “แพลตฟอร์มออนไลน์ทุกเจ้า มีหน้าที่และความรับผิดชอบในทางศีลธรรม” ในการต่อต้านการกระทำที่เป็นการคุกคามทางเพศเด็ก หรือการกระทำที่ขัดความยินยอมพร้อมใจต่างๆ
6. เพียงได้ 3 วันหลังจากคริสตอฟออกบทความ วันที่ 7 ธันวาคม Mastercard และ Visa ผู้ให้บริการบัตรเครดิตและการเงินออนไลน์ ได้เริ่มเปิดการสืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อกรณีข้อกล่าวหาวิดีโอโป๊เด็กบน Pornhub เนื่องจาก Mastercard และ Visa เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการจ่ายชำระค่าบริการบนเว็บไซต์ของ Pornhub
7. วันรุ่งขึ้นหลังจาก Mastercard และ Visa เริ่มสืบสวนต่อกรณีดังกล่าว Pornhub ได้ออกแถลงการณ์ลงวันที่ 8 ธันวาคมว่า พวกเขาจะทำการจำกัดการอัปโหลด และปิดการดาวน์โหลดวิดีโอบนเว็บไซต์ของพวกเขาลง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกเขาจะหยุดการรับวิดีโอที่อัปโหลดจากบัญชีผู้ใช้ที่ไม่ได้มีการรับรองตัวบุคคล ซึ่งจะเป็นนโยบายที่ส่งผลอย่างสำคัญต่อการจัดการการอัปโหลดวิดีโอของบัญชีผู้ใช้ที่ไม่ใช่มืออาชีพ โดยในระยะสั้น นโยบายนี้จะทำให้ Pornhub เข้าสู่การควบคุมการอัปโหลดวิดีโอที่รัดกุมมากขึ้น
8. ทั้งนี้ Pornhub ยังได้จัดตั้ง ‘ทีมแดง’ เพื่อย้อนกลับเข้าไปตรวจทานเนื้อหาทั้งหมด ที่เคยถูกอัปโหลดลงบนเว็บไซต์ของพวกเขา โดยถ้าเนื้อหาใดที่เข้าค่ายละเมิดทางเพศ พวกเขาจะลบวิดีโอดังกล่าวออก ทั้งนี้ พวกเขาเปิดเผยอีกว่า ทางบริษัทได้ทำการจัดเตรียมที่จะตีพิมพ์รายงานความโปร่งใสครั้งแรกในช่วงปีหน้าที่จะถึงนี้
9. ต่อมา วันที่ 10 ธันวาคม ที่ผ่านมา Mastercard และ Visa ได้ประกาศระงับการดำเนินธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ของเว็บไซต์ Pornhub หลังจาก Mastercard พบว่า Pornhub มีความผิดจริง ต่อกรณีการเผยแพร่วิดีโอที่มีเนื้อหาการละเมิดทางเพศต่อผู้หญิง เด็ก และกลุ่มบุคคลอื่นๆ ในขณะที่ Visa ได้ระงับการดำเนินธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ของพวกเขากับ Pornhub ลง ทั้งๆ ที่การสืบสวนยังคงไม่จบลง
10. Pornhub ได้ออกแถลงการณ์ต่อการระงับการดำเนินธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ ของ Mastercard และ Visa ว่า “เป็นความน่าผิดหวังที่ยอมรับได้” เนื่องจากการระงับดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงหลัง 2 วัน ที่ Pornhub ได้ประกาศดำเนินนโยบายตรวจสอบวิดีโอของพวกเขา โดยพวกเขากล่าวเสริมว่า “ข่าวดังกล่าวได้บดทำลายนายแบบและนางแบบของพวกเรากว่าหลายร้อนหลายพันคน ที่อาศัยแพลตฟอร์มของเราในการประกอบอาชีพประจำวัน”
11. ในทางตรงกันข้าม เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (14 ธ.ค.) Pornhub ได้ประกาศว่า พวกเขาได้ลบวิดีโอจากบัญชีผู้ใช้ที่ไม่ได้ยืนยันการระบุตัวตนไปร่วม 10 ล้านวิดีโอ โดยจากเดิมที่พวกเขามีวิดีโออยู่ในระบบกว่า 13.5 ล้านวิดีโอนั้น ภายหลังจากการดำเนินการดังกล่าว ทำให้พวกเขาเหลือวิดีโออยู่บนเว็บไซต์เพียง 3 ล้านวิดีโอเท่านั้น
12. ตั้งแต่ ค.ศ.2007 Pornhub ได้เปิดให้บัญชีผู้ใช้ใดก็ได้ สามารถอัปโหลดวิดีโอของพวกเขาลงบนเว็บไซต์ โดยหลังจากนโยบายที่พวกเขาได้ประกาศว่าผู้ใช้จะต้องยืนยันตัวตน ด้วยการอัปโหลดรูปตนเองที่เห็นใบหน้า กำลึงถือกระดาษที่เขียนชื่อบัญชีผู้ใช้เอาไว้บนมือของตัวเอง เพื่อนำภาพดังกล่าวผูกเข้ากับบัญชีผู้ใช้สำหรับการยืนยันตัวบุคคลที่ Pornhub กล่าวว่าจะทำให้ผู้อัปโหลดวิดีโอได้รับค่าเข้าชมที่แบ่งจากทาง Pornhub
13. ถึงแม้ว่า Pornhub จะยอมรับว่าตนมีความผิดในประเด็นดังกล่าวก็จริง แต่พวกเขาได้ออกมาประกาศว่า พวกเขาคาดว่ากระแสดังกล่าวในครั้งนี้เกิดขึ้นจากกลุ่มองค์กรต่อต้านหนังผู้ใหญ่ โดยในแถลงการณ์ระบุว่า “การถูกตั้งเป้าในครั้งนี้ของเรามิได้เกิดจากนโยบายของเรา หรือการการตรวจสอบที่ทำได้ยากของเรา แต่มันเกิดจากการที่พวกเราเป็นเว็บไซต์ที่เผยแพร่เนื้อหาของผู้ใหญ่”
14. เรื่องราวทั้งหมดดูจะไม่จบลงง่ายๆ เพราะเมื่อวานนี้ (16 ธ.ค.) มีผู้หญิง 40 ราย ที่อ้างว่าตนเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิดทางเพศ และถูกเผยแพร่ภาพและวิดีโอการล่วงละเมิดดังกล่าวลงบนเว็บไซต์ Pornhub ผ่านขบวนการค้าบริการทางเพศของ Girls Do Porn ที่บังคับและชักจูงให้หญิงวัย 18 ปี เข้าร่วมการถ่ายทำหนังผู้ใหญ่ จะเข้ายื่นฟ้องบริษัทหนังผู้ใหญ่เจ้าดัง พวกเธอกล่าวว่าจะเรียกร้องค่าเสียหายคนละ 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 30 ล้านบาท) โดยค่าเสียหายที่ Pornhub อาจจะต้องจ่าย ได้พุ่งสูงขึ้นไปถึง 40 ล้านเหรียญ (1,200 ล้านบาท) เป็นอย่างต่ำ
คงต้องติดตามกันต่อไปว่า Pornhub จะกู้สถานการณ์ที่ตนเองก็ยอมรับว่าพวกเขาได้หละหลวมต่อมาตรการการอัปโหลดวิดีโอที่มีเนื้อหาล่วงละเมิดทางเพศต่างๆ ลงบนเว็บไซต์ของตนอย่างไร ทั้งนี้ Pornhub เป็นบริษัทภายใต้การดูแลของ MindGeek ซึ่งทำธุรกิจด้านหนังผู้ใหญ่มาตั้งแต่ ค.ศ.2004 โดยมีรายงานว่า Pornhub เว็บไซต์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 10 ของโลก และเป็นเว็บไซต์หนังผู้ใหญ่อันดับที่ 2 รองจาก Xvideo เว็บไซต์ดังกล่าวมียอดผู้เข้าชมเมื่อ ค.ศ.2019 กว่า 4.2 หมื่นล้านวิว
ทั้งนี้ ทางการไทยเพิ่งจะปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์ดังกล่าวไปตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้เหตุผลของการปิดกั้นว่า “เว็บไซต์ดังกล่าวเป็นสื่อลามกอนาจารซึ่งเป็นเว็บไซต์ผิดกฎหมาย และได้รับการร้องเรียนมาเป็นจำนวนมากรวมถึงคำนึงถึงเยาวชนที่อาจเข้าถึงเว็บไซต์ดังกล่าว” Why It MATTERs ได้เคยพูดคุยถึงประเด็นดังกล่าวไปแล้วบนหัวข้อ การปิดกั้น Pornhub กับประเด็นที่มีมากกว่าความเสี้ยน โดยคุณสามารถรับฟังได้ทาง: https://www.youtube.com/watch?v=6FQe4gME05A&t=253s
อ้างอิงจาก
https://www.nytimes.com/2020/12/04/opinion/sunday/pornhub-rape-trafficking.html
https://www.independent.co.uk/news/world/americas/pornhub-mastercard-visa-child-abuse-b1767108.html
https://www.theguardian.com/us-news/2020/dec/10/pornhub-mastercard-visa-rape-child-abuse-images
https://edition.cnn.com/2020/12/15/business/pornhub-videos-removed/index.html
https://www.posttoday.com/world/637129
#Pornhub #Recap #TheMATTER