สัตว์ชนิดต่างๆ มักมีความเอ็นดูที่ชวนให้มนุษย์รักใคร เช่นเดียวกับ เควิน เซลลี เบิร์ด (Kevin Celli-Bird) ที่เจอเจ้านกพิราบผอมแห้งตัวหนึ่งในสวนหลังบ้านของตัวเอง ในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เขาจึงให้อาหารมัน โดยที่ไม่รู้เลยว่านกพิราบตัวนั้น คือนกที่หายไปจากการแข่งนกพิราบในรัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา
เควินเรียกเจ้านกพิราบตัวนี้ว่า ‘โจ’ เขาพบโจครั้งแรกในช่วงปลายปี ค.ศ.2020 โดยไม่รู้ว่าโจเป็นนกมีเจ้าของแล้ว จนกระทั่งเห็นผ้าสีฟ้าที่ขา ซึ่งจากนั้นสหภาพนกพิราบอเมริกันยืนยันว่า โจเป็นนกที่ผ่านการลงทะเบียน และเจ้าของของมันอยู่ที่เมืองมอนต์โกเมอรี รัฐแอละบามา เควินจึงติดต่อเจ้าของเพื่อส่งมอบเจ้านกตัวนี้คืน แต่เขาก็ไม่สามารถติดเจ้าของได้ เควินจึงให้อาหารมันต่อไป
เรื่องราวของโจเริ่มเป็นที่สนใจของสื่อออสเตรเลีย ทำให้สำนักงานตรวจตราและกักกัน (Australian Quarantine and Inspection Service) ได้ยินเรื่องราวนี้เข้า และติดต่อมาที่เคลวิน เพื่อขอให้เขาขังนกตัวนี้ไว้ก่อน เพราะกลัวว่ามันอาจเป็นพาหะนำโรคจากสหรัฐฯ แต่เควินไม่สามารถจับมันได้ และไม่ต้องการให้มันบินหนีไป จึงติดต่อให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาทำหน้าที่นี้แทน
เมื่อโจเริ่มเป็นที่โด่งดังในโลกอินเทอร์เน็ต ก็เริ่มมีหน่วยงานต่างๆ บอกมาแสดงความเห็นถึงเหตุการณ์ดังกล่าว สำนักงานเกษตรออสเตรเลีย (The Agriculture Department) ซึ่งทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยทางชีวภาพของประเทศ เปิดเผยว่า นกพิราบตัวนี้อาจเป็นภัยทางชีวภาพโดยตรงต่ออุตสาหกรรมสัตว์ปีกของประเทศ เนื่องจากเป็นนกต่างถิ่น ซึ่งมันอาจจะส่งผลต่ออุตสาหกรรมอาหารของประเทศ ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือการกำจัดนกโจ
นั่นดูเหมือนจะเป็นปลายทางที่น่าเศร้าสำหรับเจ้านกพิราบที่เดินทางมากว่า 13,000 กิโลเมตร หรือราวๆ 8,000 ไมล์ เพื่อหาบ้านใหม่ที่สุดท้ายแล้วมันอาจต้องมาจบชีวิตอย่างรวดเร็ว เคลวินเล่าว่า โจน่าจะเริ่มคิดแล้วว่านี่คือบ้านใหม่ของมัน เพราะเขาให้อาหารมันทุกวัน อีกทั้งมันยังเข้าได้ดีกับนกพื้นเมืองตัวอื่นๆ ที่แวะเวียนมายังสวนหลังบ้านของเขา
แม้ว่าการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่ต่างๆ จะดูโหดร้ายสำหรับสัตว์ตัวหนึ่ง แต่เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาในอนาคต พวกเขาเองก็ไม่มีทางเลือกอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโจเป็นนกที่เดินทางมาจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 สูงที่สุดในโลก ดังนั้นการลดความเสี่ยงจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดองค์การนกของสหรัฐอเมริกา (U.S. bird organization) แถลงว่าแถบคาดขาดังกล่าวเป็นของปลอม และมีความเป็นไปได้ที่โจจะเป็นนกท้องถิ่น ซึ่งหมายความว่าโจไม่ได้มีความเสี่ยงเป็นภัยทางชีวภาพ ดังนั้นโทษประหารของโจจึงได้รับการยกเว้น (*อัพเดตเพิ่มเติมเวลา 17.50 น.)
ออสเตรเลีย เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีความเข้มงวดในเรื่องการนำเข้าสัตว์ และสัตว์เลี้ยงมากเข้าประเทศมากที่สุด เมื่อปี ค.ศ.2015 หากใครยังจำได้ เคยเกิดเหตุการณ์ที่นักแสดงชื่อดังจอห์นนี่ เดปป์ (Johnny Depp) และอดีตภรรยาแอมเบอร์ เฮิร์ด (Amber Heard) แอบนำสุนัขพันธุ์ยอร์คเชียร์เทอร์เรียร์ 2 ตัวชื่อพิสทอล กับบู เข้ามาโดยไม่แจ้งต่อทางการ
ซึ่งตามกฎหมายแล้ว หากใครต้องการนำสัตว์เลี้ยงเข้าประเทศ จะต้องแจ้งต่อศุลกากรล่วงหน้า และเมื่อได้รับอนุญาติให้เข้าประเทศแล้ว สัตว์จะต้องถูกกักตัวเพื่อตรวจโรคอย่างน้อย 10 วัน แต่ในครั้งนั้นเดปป์ แอบนำเข้ามาทางเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว ทางการจึงขีดเส้นตายให้เขาส่งสุนัขกลับภายใน 50 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นจะกำจัดสุนัขทั้งสอง ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นจบลงด้วยดี พิสทอล และบูเดินทางกลับบ้านที่สหรัฐฯ ได้อย่างปลอดภัย
อ้างอิงจาก
https://abc7news.com/australia-pigeon-pacific…/9668788/
https://www.bbc.com/news/world-australia-55660592
https://www.cbsnews.com/…/australia-to-kill-pigeon…/
https://www.theguardian.com/…/racing-pigeon-that…