การชุมนุมแสดงออกทางความคิดเห็นใดๆ ล้วนเป็นสิทธิที่ประชาชนพึงได้ตามหลักประชาธิปไตย ซึ่งวันนี้ (16 มกราคม) เป็นอีกหนึ่งวันที่บรรยากาศการชุมนุมเรียกร้องสิทธิ์ของประเทศไทยมีความเข้มข้นมากที่สุด เหตุการณ์ต่างๆ จะเป็นอย่างไรบ้าง The MATTER จะมาสรุปให้ฟัง
- ตามกำหนดแล้ว วันนี้มีการประกาศชุมนุมล่วงหน้าของประชาชน 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มการ์ดปลดแอก ซึ่งนัดเขียนป้ายสีขาว เพื่อรณรงค์ให้ยกเลิกกฎหมาย ม.112 บริเวณอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และกลุ่มนักเรียนเลว ที่นัดจัดกิจกรรมเนื่องในวันครู บริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ ทั้งสองกิจกรรมจัดขึ้นในเวลาต่างกัน และสถานที่ต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ การโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาขัดขวางการแสดงออกทางความคิดเห็น
- สำหรับกิจกรรมของกลุ่มการ์ดปลดแอก ตามนัดหมายจัดขึ้นในเวลา 12.00 น. บริเวณเกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมนำผ้าดิบสีขาวขนาดใหญ่มากาง ก่อนจะเชิญชวนให้ประชาชนร่วมมาแสดงความคิดเห็นถึงความไม่เป็นธรรมจากการใช้ ม.112 คุกคามผู้เห็นต่าง
- กิจกรรมดำเนินไปได้ไม่นาน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังมากกว่าหนึ่งร้อยนาย เข้ามาปิดล้อมรอบเกาะพญาไท โดยอ้างถึง พรบ.โรคติดต่อ และ พรก.ฉุกเฉินฯ เนื่องจากขณะนี้กรุงเทพฯ เป็นพื้นที่สีแดงของการแพร่ระบาด COVID-19 ระหว่างที่มีการเจรจาพูดคุย เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปยึดผ้าดิบสีขาว และจับกุมผู้เข้าร่วมกิจกรรม 2 คน ก่อนจะนำตัวไปยังกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาคที่ 1 จังหวัดปทุมธานี (บก.ตชด.ภาค 1)
- หลังเหตุการณ์จับกุมมวลชน 2 คน ประชาชนบริเวณนั้นไม่พอใจอย่างมาก และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัว แต่ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ได้ปฏิเสธ และออกคำสั่งให้กลุ่มผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ โดยขู่ว่าจะจับกุมผู้ฝ่าฝืนคำสั่ง กลุ่มผู้ชุมนุมจึงออกจากเกาะพญาไท และเคลื่อนย้ายมาปักหลักที่หน้า สน.พญาไทแทน ขณะนั้นกลุ่มมวลชนได้ตะโกนคำว่า ‘ปล่อยเพื่อนเรา’ และมีกระจายข่าวผ่านทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊ก เพื่อชักชวนให้ประชาชนร่วมกันออกมาชุมนุมเพื่อกดดันเจ้าหน้าที่ตำรวจ
- สถานการณ์เริ่มตึงเครียดมากขึ้น ตำรวจจึงปิดกั้นพื้นที่หน้า สน. และประกาศให้ออกจากพื้นที่ พร้อมมีการนำรถตำรวจตระเวนชายแดน 6 คันเข้ามาจอด กลุ่มผู้ชุมนุมจึงถอยออกมาชั่วคราว
- จากนั้น เวลาประมาณ 15.30 กลุ่มการ์ดปลดแอกได้นัดรวมตัวกันอีกครั้งที่สามย่านมิตรทาวน์ หลังจากได้รับความคืบหน้าจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ที่เปิดเผยว่า มีการส่งทนายไปยังตชด. ภาค 1 เพื่อพูดคุยกับผู้ถูกจับกุม แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิเสธไม่ให้เข้าพบ โดยอ้างว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนยังเดินทางมาไม่ถึง ซึ่งขัดกับข้อมูลที่ทางศูนย์ฯ ทนายได้รับรายงานมาว่าตำรวจกำลังทำบันทึกการจับกุมอยู่
- การชุมนุมบริเวณสามย่านมิตรทาวน์เป็นไปอย่างสันติ มีเพียงเสียงตะโกนเพื่อแสดงความเห็น แต่เช่นนั้น เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาบริเวณที่ชุมนุม และย้ำถึงมาตรการป้องกัน COVID-19 ที่ระบุไว้ว่าไม่ควรมีการจับกลุ่มกันเกิน 3 คน เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อ และมีการประกาศข้อกฎหมายต่างๆ โดยขีดเส้นตายให้ประชาชนแยกย้ายออกจากพื้นที่ในเวลา 16.30 น. ผู้ชุมนุมจึงเคลื่อนพลไปที่แยกสามย่านแทน
- เวลาประมาณ 17.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้รับข่าวการปล่อยตัวของ 2 ผู้เข้าร่วมกิจกรรมการ์ดปลดแอก จึงประกาศยุติการชุมนุม แต่ก็ยังเหลือมวลชนบางส่วนที่ยังคงปักหลักอยู่ เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยผู้ถูกจับกุมออกมาเสียก่อนจึงจะแยกย้าย
- บรรยากาศการชุมนุมกลับมาดุเดือดอีกครั้ง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามากลางพื้นที่ชุมนุม และอ่านข้อกฎหมายว่าด้วย พรบ.โรคติดต่อ และ พรก.ฉุกเฉิน ทำให้ผู้ชุมนุมไม่พอใจอย่างมาก ก่อนที่จะมีตำรวจตั้งแถวล้อม ผู้ชุมนุมและทยอยจับกุมผู้ชุมนุมที่อยู่ในพื้นที่
- เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าควบคุมพื้นที่บริเวณสามย่ายมิตรทาวน์ และย่านจามจุรีสแควร์ โดยเวลาประมาณ 17.50 น. บริเวณจามจุรีสแควร์ ได้มีการโยนวัตถุคล้ายระเบิด ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่าฝั่งไหนเป็นผู้ก่อเหตุ ในส่วนของบริเวณห้างสามย่านมิตรทาวน์มีการตั้งแนวในเกือบทุกประตูทางออกเพื่อปิดล้อมผู้ชุมนุม รวมถึงจับกุมกลุ่มที่ขับขี่จักรยานยนต์ในถนนด้วย
- เวลาประมาณ 18.40 น. ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ ปิดไฟภายในห้าง และประกาศให้ผู้ใช้บริการออกมาด้านนอกทั้งหมด ส่งให้มีกลุ่มผู้ชุมนุมหลายคนถูกเจ้าหน้าที่จับกุม ซึ่งภายหลัง เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นักกิจกรรมชื่อดังได้ออกมาประณามการกระทำของห้างดังกล่าว โดยระบุว่า การล้อมสามย่านมิตรทาวน์วันนี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าสังคมเหลือพื้นที่แห่งความเป็นมนุษย์น้อยลง ชุมชนลดน้อยลงและพื้นที่ถูกควบคุมโดยทุนใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือเหตุผลทำไมเราต้องรักษาพื้นที่สาธารณะเอาไว้
- ข้อมูลจาก iLaw รายงานว่า มีประชาชนถูกจับกุมจากเหตุการณ์นี้ประมาณ 7-8 คน ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามีใครบ้าง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาตให้เข้าไปในพื้นที่คุมขัง อีกทั้งกลุ่มผู้ถูกควบคุมตัวได้ส่งสัญญาณบอกว่าเจ้าหน้าที่ยึดเครื่องมือสื่อสาร ทำให้ไม่สามารถติดต่อกับใครได้
- อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การชุมนุมในบริเวณสามย่านได้ยุติลงแล้ว เจ้าหน้าที่เข้าไปเจรจากับผู้ชุมนุม เพื่อให้ออกจากพื้นที่อย่างสงบ ก่อนจะกลับมาเปิดเส้นทางจราจรให้รถเคลื่อนผ่านปกติ
- สำหรับอีกหนึ่งกิจกรรมเรียกร้องสิทธิ์ที่คนให้ความสนใจไม่แพ้กันในวันนี้คือ กิจกรรมวันครูของกลุ่มนักเรียนเลว ที่นัดรวมตัวกันบริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการเวลา 15.00 น. โดยก่อนจะถึงเวลาเริ่มทำกิจกรรมประมาณ 15 นาที ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ เข้ามาคุมตัวเยาวชน 5 คน ซึ่งเป็นตัวแทนจากกลุ่มนักเรียนเลว จากนั้นพาไปยังกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (บช.น.1) เพื่อเจรจาหาข้อสรุปในการดำเนินกิจกรรม
- ในระหว่างการเจรจา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พูดถึงการฝ่าฝืน พรบ.โรคติดต่อ และ พรก.ฉุกเฉิน แต่ยืนยันจะไม่ดำเนินคดีกับผู้จัดกิจกรรม เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นเยาวชน ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าให้ยุติการดำเนินกิจกรรมต่างๆ โดยตัวแทนจากนักเรียนเลวได้ต่อรองขอจัดกิจกรรม 15 นาที ซึ่งเจ้าหน้าที่อนุญาต แต่ไม่ให้ทำอะไรที่เป็นการทำลายทรัพย์สินสาธารณะ
- กิจกรรมวันครูของกลุ่มนักเรียนเลวดำเนินต่อไป โดยมีการขึ้นป้ายไวนิลคำข้อความต่างๆ อาทิ เอาไม้เรียวคืนไป เอาความปลอดภัยคืนมา จากนั้นมีการนำสีแดงคล้ายเลือดราดไปบนไม้บรรทัด กรรไกร รวมถึงสาดบนตัวของผู้หญิงที่แต่งชุดนักเรียน เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความเจ็บปวดของการอยู่ในระบบการศึกษา ที่มีครูเป็นผู้กุมอำนาจ และเด็กไม่มีสิทธิ์แสดงความเห็นใดๆ จากนั้นกิจกรรมก็ยุติลงอย่างสงบ
- ความพยายามในการขัดขวางการแสดงออกทางความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจจากเหตุการณ์ในวันนี้ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนอย่างมาก บ้างกล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตย และประชาชนผู้เป็นนายที่แท้จริง ดังนั้นประชาชนจึงเรียกร้องให้ตำรวจ และข้าราชการทุกคนหันกลับมาอยู่ข้างประชาชน และร่วมขับเคลื่อนประเทศไปสู่ความเจริญที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง
อ้างอิงจาก
https://twitter.com/plodaek/status/1350397276515041281
https://twitter.com/plodaek/status/1350392942876262401
https://www.facebook.com/299528675550/posts/10164901692630551/?d=n
https://www.thairath.co.th/news/politic/2013953
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_5750153
https://twitter.com/NetiwitC/status/1350420501844246529
#Recap #TheMATTER