มาถึงแล้วกับการประกาศรางวัลลูกโลกทองคำ (Golden Globes) ครั้งที่ 78 ในคืนวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ตามเวลาท้องถิ่น (หรือช่วงเช้าของวันที่ 1 มีนาคม ตามเวลาไทย) หลังจากการจัดงานถูกเลื่อนออกไปเกือบ 2 เดือน จากกำหนดในเดือนมกราคมของทุกปี อย่างไรก็ดี จะมีใครคว้ารางวัลอะไรกลับไปบ้าง The MATTER ได้สรุปมาให้แล้ว ณ ที่นี้
เริ่มต้นที่รางวัลภาพยนตร์ดราม่ายอดเยี่ยมในปีนี้ ตกเป็นของ Nomadland เช่นเดียวกับกับภาพยนตร์ตลกหรือเพลงยอดเยี่ยม ที่ถูกเลือกให้เป็นของ Borat Subsequent Moviefilm ในขณะที่ภาพยนตร์อนิเมชั่นยอดเยี่ยมตกไปเป็นของ Soul ส่วน Minari เอง ที่เป็นผู้คว้ารางวัลภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมในปีนี้ไป
ในส่วนของรางวัลดารานำชายยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์ดราม่าในปีนี้ ตกไปเป็นของ แชดวิก โบสแมน (Chadwick Boseman) ผู้ล่วงลับ จากภาพยนตร์อย่าง Ma Rainey’s Black Bottom และ แอนดรา เดย์ (Andra Day) ที่คว้ารางวัลดารานำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์ดราม่า จากภาพยนตร์ The United States vs. Billie Holiday ในขณะที่ ซาชา บารอน โคเฮน (Sacha Baron Cohen) จากภาพยนตร์ Borat Subsequent Moviefilm เอง ที่คว้ารางวัลดารานำชายยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์ตลกหรือเพลงไป รวมถึง โรซามันด์ ไพค์ (Rosamund Pike) ที่ถูกเลือกให้เป็นดารานำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์ตลกหรือเพลงเช่นกัน
ขณะที่รางวัลดาราสมทบชายยอดเยี่ยมในปีนี้ ตกไปเป็นของ แดเนียล คาลูยา (Daniel Kaluuya) จากผลงานการแสดงในเรื่อง Judas and the Black Messiah ส่วน โจดี ฟอสเตอร์ (Jodie Foster) จากภาพยนตร์ The Mauritanian ก็ได้รับเลือกให้เป็นดาราสมทบหญิงยอดเยี่ยมในปีนี้เช่นเดียวกัน
เช่นเดียวกับ Nomadland ที่คว้ารางวัลภาพยนตร์ดราม่ายอดเยี่ยมประจำปีนี้ไป ผู้กำกับอย่าง โคลอี จาว (Chloé Zhao) เอง ก็ได้คว้าตำแหน่งผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากผลงานในเรื่องเดียวกันนี้ ทั้งนี้ จาวยังสร้างประวัติศาสตร์ กลายเป็นผู้กำกับหญิงชาวเอเชียคนแรก ที่ได้รับรางวัลดังกล่าว
ส่วนรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประจำปีนี้ ตกเป็นของ The Trial of the Chicago 7 โดย แอรอน ซอร์กิน (Aaron Sorkin) ในขณะที่เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปีนี้ ตกเป็นของ La vita davanti a sé จากเพลง Io Sì (Seen) ทั้งนี้ Soul ที่คว้ารางวัลอนิเมชั่นยอดเยี่ยม ก็ได้คว้ารางวัลดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปด้วยเช่นกัน
แต่ถ้าหากพูดถึงรางวัลซีรีส์โทรทัศน์ดราม่ายอดเยี่ยมประจำปีนี้ คงหนีไม่พ้นที่จะตกไปเป็นรางวัลของ The Crown โดยมี จอช โอคอนเนอร์ (Josh O’Connor) และเอมมา คอร์ริน (Emma Corrin) ที่คว้ารางวัลนักแสดงนำชายและหญิง ประเภทซีรีส์ดราม่ายอดเยี่ยมจาก The Crown ไปครองด้วยเช่นกัน ในขณะที่ Schitt’s Creek เอง ที่คว้ารางวัลซีรีส์โทรทัศน์ตลกหรือเพลงยอดเยี่ยม และ The Queen’s Gambit เอง ที่คว้ารางวันมินิซีรีส์ยอดเยี่ยมไปครอง
ทั้งนี้ ในส่วนของรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากซีรีส์ประเภทตลกหรือเพลง ตกเป็นของ เจสัน ซูเดคิส (Jason Sudeikis) จากซีรีส์ Ted Lasso และแคทเธอรีน โอฮารา (Catherine Ohara) ที่ได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากซีรีส์ประเภทตลกหรือเพลง ใน Schitt’s Creek ไปครอบครอง
รวมไปถึง มาร์ก รัฟฟาโล (Mark Ruffalo) จาก I Know This Much Is True ที่คว้าตำแหน่งนักแสดงนำชายจากมินิซีรีส์ยอดเยี่ยมกลับบ้านไปครอง เช่นเดียวกับ อันยา เทย์เลอร์-จอย (Anya Taylor-Joy) จาก The Queen’s Gambit ที่ถูกเลือกให้เป็นนักแสดงนำหญิงจากมินิซีรีส์ยอดเยี่ยมประจำปีนี้ รวมไปถึง จอห์น โบเยกา (John Boyega) ที่คว้ารางวัลนักแสดงนำชาย ประเภทละครโทรทัศน์ยอดเยี่ยม จาก Small Axe และ จิลเลียน แอนเดอร์สัน (Gillian Anderson) จาก The Crown ที่คว้าตำแหน่งนักแสดงนำหญิง ประเภทละครโทรทัศน์ยอดเยี่ยมไปครอง
ทั้งหมดนี้ คือ รายนามของผู้ได้รับรางวัลความเป็นเลิศต่างๆ ในวงการภาพยนตร์ จากคำตัดสินของคณะกรรมการในรางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่ 78 อย่างไรก็ดี งานประกาศในครั้งนี้กลับไม่มีบรรยากาศของการเดินพรมแดงอย่างที่เราคุ้นตากัน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยงานถูกจัดขึ้นผ่านการดำเนินรายการของพิธีกร 2 คน คือ เอมี่ โพห์เลอร์ (Amy Poehler) ซึ่งดำเนินรายการอยู่ที่ โรงแรม The Beverly Hilton ในลอสแองเจลีส และ ทีนา เฟย์ (Tina Fey) ที่ประจำการอยู่ที่สถานี NBC ในนิวยอร์ก โดยบรรยากาศในงานมีดาราเพียงไม่กี่คนที่ได้ขึ้นประกาศรางวัล เช่น มาร์โก ร็อบบี้ (Margot Robbie) เคท ฮัดสัน (Kate Hudson) และไมเคิล ดักลาส (Michael Douglas)
อ้างอิงจาก
https://www.imdb.com/golden-globes/nominations/…
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/925007