ฝุ่นควัน มลพิษ และไฟไหม้ป่า เป็นปัญหาที่ชาวภาคเหนือต้องเผชิญหน้าทุกปี แต่ล่าสุดดูเหมือนสถานการณ์จะน่าเป็นห่วงมากขึ้นไปอีก หลังมีรายงานว่า เกิดเหตุไฟไหม้บริเวณภูเขาป่าสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งปรากฎภาพเปลวเพลิงเผาไหม้ภูเขาทั้งสูง หมอกควันฟุ้งกระจายไปทั่วพื้นที่
ศูนย์บัญชาการป้องกันแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 มีนาคม หน่วยงานต่างๆ ได้ตรวจสอบพื้นที่เสียหาย และพบว่าเกิดเหตุไฟไหม้ทั้งสิ้น 3 จุด ในท้องที่บ้านแม่สาบ ต.สะเมิงใต้ อ.สะเมิง โดยพื้นที่ทั้งหมดอยู่ในเขตป่าอุทยานแห่งชาติขุนขาน
หลังเกิดเหตุไฟป่าลุกลามไปในวงกว้าง จักรา ดิษยนันท์ หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าสะเมิงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงหน่วยต่างๆ ได้เข้าร่วมคุมสถานการณ์ไฟไหม้ โดยมีเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 2 ลำ มาช่วยทิ้งน้ำประมาณ 40 เที่ยว ทำให้สามารถวบคุมเพลิงไหม้ได้บ้างส่วน
ขณะที่ช่วงเช้าของวันนี้ สำนักข่าวนอร์ทพับลิคนิวส์ ระบุว่า ยังมีเพลิงไหมอยู่ที่บริเวณตลิ่งเขา ด้านปีกขวาของภูเขาสะเมิง ซึ่งไม่สามารถขึ้นไปดับได้ ประกอบกับลักษณะทางภูมิศาสตร์ของบริเวณดังกล่าวเป็นเขาสูง ผาหิน และเป็นป่าไผ่ซาง ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างมากลำบาก และควบคุมบริเวณไฟไหม้ได้ยาก เนื่องจากไผ่แห้งเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีในการเผาไหม้ แต่เข้าหน้าที่ได้พยายามทำแนวกั้น เพื่อควบคุมขอบเขตพื้นที่เสียหาย หลังจากพยายามควบคุมเพลิงไปได้ระยะหนึ่ง กองทัพอากาศได้ใช้ยานไร้คนขับ UAV บินเพื่อตรวจสอบพื้นที่เสียหาย พบว่า บนภูเขาสะเมิงยังคงมีไฟป่าคุกกรุ่นจึง จึงต้องระดมกำลังเพื่อควบคุมเพลิงต่อเป็นวันที่ 2
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่าขณะนี้สามารถดับไฟได้แล้ว ส่วนสาเหตุที่เกิดไฟป่าครั้งนี้ เป็นฝีมือของมนุษย์อย่างไม่ต้องสงสัย เนื่องจากโอกาสที่จะเกิดไฟป่าขึ้นเองตามธรรมชาติ ในประเทศไทยนั้น มีไม่ถึง 1% ซึ่งสาเหตุที่แน่ชัดก็ต้องติดตามกันต่อไป
เหตุการณ์ไฟไหม้ป่าบริเวณภูเขาสะเมิง ส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศโดยรวมของเชียงใหม่เป็นอย่างมาก เนื่องจากป่าสะเมิงอยู่ที่ด้านหลังเขาดอยสุเทพ และมีอาณาเขตกว้างกว่า 8 แสนไร่ เปรียบเสมือนปอดของเมืองเชียงใหม่เลยก็ว่าได้ โดยเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. แอพลิเคชั่น AirVusual รายงานว่าเชียงใหม่มีค่าฝุ่นอยู่ที่ 171 US AQI จัดอยู่ในเกณฑ์ ‘ไม่ถูกสุขภาพ’ และจัดเป็นเมืองที่ 3 ของโลกที่มีค่าฝุ่นควันเยอะสุด รองจากเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และเมืองกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล แต่สาเหตุของการพุ่งสูงของค่าฝุ่นของเชียงใหม่นั้น จะเป็นเพราะไฟป่าครั้งนี้หรือไม่ ต้องมีการตรวจสอบสภาพลมอีกครั้ง
หลังกระแสข่าวเผยแพร่ออกไป ชาวโซเชียลมีเดียได้ร่วมกันติดแฮชแท็ก #ไฟป่าเชียงใหม่ เพื่อเรียกร้องให้มีการแก้ปัญหาไฟป่าอย่างจริงจัง และมีการระดมทุนทั้งค่าใช้จ่าย รวมถึงสิ่งของจำเป็นเพื่อส่งให้เจ้าหน้าที่ดับไฟ และสำหรับใครต้องการบริจาคเพื่อช่วยเหลือ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก ‘อาสาไฟป่าเชียงใหม่ -ภาคประชาชน’
อ้างอิงจาก
https://www.facebook.com/CNXvolunteer/
https://www.facebook.com/…/pcb…/4004252472954286/
https://www.amarintv.com/news/detail/72891
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/929885
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000030138