“ประเทศไทยเราต้องชนะ เมื่อถึงยามคับขับประชาชนต้องการผู้กล้าหาญ เมื่อถึงยามปรึกษางานต้องการคนที่ไม่พูดพล่ามไร้สาระ ไม่พูดสิ่งใดบิดเบือน ยามมีข้าวมีน้ำก็ต้องการผู้เป็นที่รัก ยามเกิดปัญหาก็ต้องการบัณฑิต” – พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวในแถลงการณ์ ศบค. วันที่ 16 เมษายน 2564 เวลา ประมาณ 15.45 น.
.
เมื่อเวลาประมาณ 15.45 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ออกมากล่าวในแถลงการณ์ ศบค. ถึงปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ก่อนที่จะมีการพูดถึงมาตรการเพิ่มเติมต่อไป
.
นายกฯ กล่าวว่าในขณะนี้กำลังมีการจัดหาและกระจายวัคซีนเพิ่ม อย่างไรก็ดี ในขณะนี้ได้ฉีดวัคซีนกว่า 500,000 โดสให้แก่ประชาชนแล้ว ซึ่งเป็นจำนวนเท่าที่มีอยู่ และได้วางแผนจะฉีดวัคซีนให้ครบร้อยละ 60 ของประเทศ โดยขณะนี้ มีการตั้งคณะกรรมการศึกษาและเชิญผู้ทรงคุณวุฒิมาให้คำปรึกษาถึงแนวทางในการฉีดและมีการหารือว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้ได้รับวัคซีนประเภทอื่นๆ
.
โดยในขณะนี้ กำลังมีการติดต่อกับหลายบริษัทเพื่อขอซื้อวัคซีนเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม “เขาจะขายหรือไม่ขาย ก็แล้วแต่เขา” นายกฯ กล่าว
.
นายกฯ กล่าวในท่อนหนึ่งแสดงความกังวลถึงมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในขณะนี้ว่า “หลายอย่างที่ผมยังกังวลอยู่คือเรื่องเว้นระยะห่างทางสังคม ไม่ว่าในครอบครัวสังคมหรือชุมชน หลายคนไม่ปฏิบัติตามกติกาดังกล่าว เช่นมีการชุมนุมกัน ต่อต้านนู่นนี่นั่นคืออันตรายทั้งสิ้น ผมไม่ได้พูดเรื่องผิดกฎหมายนะ แต่มันคืออันตรายของท่าน อย่างไรก็ตาม ผมก็ดูแลท่านทุกคนอยู่แล้ว”
.
นายกแสดงความกังวลต่อการสร้างความเข้าใจในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เพราะมีการให้ข้อมูลที่ใส่ร้าย บิดเบือน และกล่าวว่าตนเองได้สละชีวิตให้กับประเทศชาติแล้ว ดังนั้น อยากให้ประชาชนเลือกเองว่าใครที่ควรเชื่อถือ
.
นายกฯ ย้ำว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาของคนไทยทุกคน ไม่ควรจะรังเกียจหรือตั้งแง่กันขนาดนั้น อยากให้ทุกคนช่วยเหลือกัน เพื่อจะผ่านสถานการณ์ตอนนี้ไปให้ได้
.
.
#TheMATTER #Covid19 #Coronavirus