ไทยเข้าสู่การแพร่ระบาดระยะที่ 3 ของ COVID-19 สายพันธุ์กลายพันธุ์ B117 ที่ทำให้การแพร่ระบาดขยายเป็นวงกว้าง และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เกิดผู้ป่วย COVID-19 เพิ่มขึ้นต่อวันหลายเท่าตัว ปัญหาที่ตามมาก็คือ ผู้ติดเชื้อหลายคนระบุว่า พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงเตียงในโรงพยาบาลได้
ปัญหาดังกล่าวนำมาซึ่งข้อข้องใจว่า เหตุใดผู้ป่วย COVID-19 หลายคน กลับเข้าไม่ถึงสถานที่รองรับขั้นพื้นฐานที่สุด คือ เตียงในโรงพยาบาล The MATTER ได้สรุปปัญหาและสาเหตุดังกล่าวมาไว้ให้แล้ว
1.หลังจากมีกระแสข่าวในไทยว่า โรงพยาบาลไม่มีเตียงรองรับผู้ป่วยมากพอ เมื่อวันที่ 16 เมษายน กรุงเทพมหานคร ออกแถลงว่า ผู้ป่วย COVID-19 หลายคน เลือกรักษาตัวตามโรงพยาบาลเอง จึงเป็นต้นเหตุที่ทำให้เตียงผู้ป่วย ที่จะรองรับผู้ติดเชื้อมีไม่เพียงพอ เพราะผู้ป่วยที่เกี่ยงโรงพยาบาลรักษา ไม่ยอมไปตามที่เจ้าหน้าที่บอก
2.แต่ดูเหมือนจะไม่สอดคล้องกันกับหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร เพราะกระทรวงสาธารณสุข ออกแถลงการณ์ เมื่อวันที่ 19 เมษายน ระบุว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมมือกับเครือข่ายบริหารจัดการเตียง จัดหาเตียงพักให้แก่ผู้ติดเชื้อ โดยยืนยันว่า มีเตียงเพียงพอในการรองรับผู้ป่วย COVID-19 รวม 9 พันกว่าเตียง ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครยังได้มีการเปิดโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติมอีก 3 พันเตียงด้วย
3.มีรายงานข่าวจาก PPTV HD 36 ระบุว่า จากการปฏิบัติหน้าที่ของศูนย์เอราวัณ ที่มีภารกิจหลักในการรับผู้ป่วย COVID-19 ไปส่งตามโรงพยาบาลระบุว่า ศูนย์เอราวัณ ต้องรับส่งผู้ป่วยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร วันละกว่า 100 ราย ซึ่งปัญหาที่พบคือ เตียงที่จะรองรับของโรงพยาบาลปลายทาง มีไม่เพียงพอ จึงทำให้ผู้ป่วยที่แสดงอาการน้อยต้องพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านแทน ค้านกับคำพูดของกรมการแพทย์ ที่ระบุว่า ผู้ป่วยที่มีอาการน้อย และรักษาตัวอยู่บ้าน เป็นเพียงแค่แนวทางการรอเตียง เพราะไม่รู้จะต้องทำตัวอย่างไร กระแสข่าวลือว่าเตียงไม่พอจึงไม่เป็นความจริง
4.นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ระบุในรายการตอบโจทย์ว่า ปัจจุบัน หากผู้ป่วยรายใหม่แต่ละวัน มีไม่เกิน 2,000 ราย คาดว่าเตียงในดรงพยาบาลจะยังรองรับได้มากพอ โดยตนขอความร่วมมือจากโรงพยาบาลเอกชน ในการจัดการบริหารจำนวนเตียงให้เพียงพอ โดยทางกรมการแพทย์ขอความร่วมมือ ไม่ให้ผู้ป่วยกักตัวเองอยู่ที่บ้านเอง
5.ในขณะที่ ผศ.นพ.บวรศม ลีระพันธ์ คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า ตนมีความเป็นห่วงว่า เตียงสามารถหาเพิ่มได้ แต่บุคลากรอาจรองรับไม่ไหว โดยเฉพาะในกรณีของผู้ป่วยที่ต้องเข้า ICU อาจจะมีบุคลากรมาดูแลไม่เพียงพอ หากการแพร่ะระบาดขยายเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น โดย นพ.สมศักดิ์ ระบุว่า สามารถนำบุคลากรทางการแพทย์ด้านอื่น เข้ามาช่วยดูแลผู้ป่วยได้ เพราะก่อนหน้านี้ ไทยก็มีมาแล้ว ในการดูแลผู้ป่วยหลายร้อยเตียง
6.นพ.สมศักดิ์ ยืนยันว่า ฝ่ายการเมืองรับฟังฝ่ายการแพทย์และข้อเสนอทางวิทยาศาสตร์ การที่รัฐระบุให้ประชาชนเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล และโรงพยาบาลสนาม ไม่ใช่การสร้างภาพลักษณ์ว่า รัฐบาลคุมอยู่ และไม่ยอมให้มีการกักตัวอยู่ที่บ้าน เพราะไม่อยากให้ประชาชนมองว่าเป็นการจัดการที่ล้มเหลว นพ.สมศักดิ์ ยืนยันว่า ภาคการแพทย์และระบบสาธารณสุขจัดการสถานการณ์ได้ ทั้งนี้ สายพันธุ์กลายพันธุ์ B117 มีอาการติดเชื้อในปอดที่ไม่แสดงอาการจำนวนมาก แต่เมื่ออาการหนักก็อาจจะทำให้ผู้ป่วยทรุดหนักลงไปได้ จึงอยากให้เข้ารักษาที่โรงพยาบาล เพราะเป็นทั้งการควบคุมโรคและการรักษาพยาบาล
7.ผศ.นพ.บวรศม กล่าวว่า บริบทการรักษาโรคและการควบคุมโรค จะต้องทำไปพร้อมๆ กัน โดยต้องมีการพิจารณาผล ของการปล่อยให้มีการกักตัวที่บ้านกันเอง ในหมู่ประชาชน กับการเพิ่มประสิทธิภาพการรองรับผู้ป่วยในโรงพยาบาลว่า การใช้แบบแผนไหนจะคุ้มค่ามากกว่ากัน ยังไม่รวมถึงการเร่งการฉีดวัคซีน บริบทการรักษาโรค และการควบคุมโรคจึงต้องทำอย่างรอบด้าน และล่วงหน้า มากกว่าการตอบสนองต่อสถานการณ์เฉพาะหน้าไปเรื่อยๆ
8.นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับปัญหาที่ผู้ป่วย COVID-19 กล่าวว่าหาเตียงไม่ได้นั้น ต้องยอมรับว่าเกิดจากการประสานงานในภาคโรงพยาบาลเอกชน ในการส่งตัวผู้ป่วยกันเอง อาทิ โรงพยาลเอกชนในเครือเดียวกัน ไม่ยอมรับผู้ป่วยจากอีกโรงพยาบาลในเครือ การจะส่งตัวผู้ป่วยจากโรงพยาบาลเอกชน เข้ามายังโรงพยาบาลรัฐอย่างเดียว จะทำให้โรงพยาบาลรัฐรับไม่ไหว เพราะเตียงจำนวน 60 เปอร์เซ็นต์ เป็นของภาคเอกชน นพ.สมศักดิ์ ยืนยันว่า ตัวเลขเตียงที่มีระบุในระบบคอมพิวเตอร์มีเหลือแน่นอน
9..นพ.สมศักดิ์ กล่าวถึงอีกกรณี ที่ผู้ป่วย COVID-19 หาเตียงนอนไม่ได้ เกิดจากการที่ผู้ติดเชื้อไปตรวจหาเชื้อจากห้องทดลองเดี่ยว ที่ไม่ได้สังกัดอยู่กับทางโรงพยาบาล พอพบว่าตนเองติดเชื้อก็เกิดความคว้างขึ้น ทำให้ไม่ทราบว่าตนเองจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรต่อ โดยกำลังมีการประสานให้ห้องทดลองต่างๆ ต้องร่วมกับโรงพยาบาล ในการส่งต่อผู้ป่วยให้มีเตียงนอนรักษา ยอมรับว่ายังคงมีตกค้าง แต่กำลังประสานเรื่อยๆ เพื่อปัญหาดังกล่าวหมดไป
10.นพ.สมศักดิ์ กล่าวในการแถลงของกระทรวงสาธารณสุข เมื่อวานนี้ (19 เมษายน) ย้ำอีกครั้งว่า ประเด็นปัญหาหลัก ที่ทำให้ไม่มีเตียงเพียงพอ เกิดขึ้นจากห้องทดลองเอกชน ไม่ได้เชื่อมโยงกับโรงพยาบาล ทำให้ไม่มีการส่งต่อผู้ป่วยเข้าไปรักษา, โรงพยาบาลเอกชน ไม่ยอมขยายเตียงรักรักษา, การค้นหาเชิงรุก พบผู้ป่วยติดเชื้อจำนวนมาก, และผู้ป่วยรอฟังผลการหาเชื้อที่บ้าน ทำให้ใช้เวลาในการประสานเตียง โดย นพ.สมศักดิ์ ย้ำว่า การที่มีผู้ป่วย COVID-19 ที่ไม่ได้เข้ามานอนที่โรงพยาบาล ไม่ได้แปลว่าโรงพยาบาลมีเตียงไม่เพียงพอต่อการรักษาและควบคุมโรค
11.ทั้งนี้ แนวทางในการบริหารจัดการเตียง ผู้ป่วยที่มีอาการไม่มาก จะให้ทางกรุงเทพมหานคร รับไว้ดูแลในโรงพยาบาลสนาม หากเป็นผู้ป่วยระดับกลางและรุนแรง จะถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล ระหว่างโรงพยาบาลของกรุงเทพมหานคร โรงพยาบาลจองมหาวิทยาลัยและโรงเรียนการแพทย์ โรงพยาบาลของกรมการแพทย์ และโรงพยาบาลเอกชน หมุนเวียนกันไป โดยกรมการแพทย์จะเป็นคนจัดการผู้ป่วยเข้าไปในแต่ละโรงพยาบาล ทั้งนี้ ขอให้แต่ละโรงพยาบาลเตรียมห้อง ICU เอาไว้ เนื่องจากคาดการณ์ว่า ในสัปดาห์หน้า อาจมีผู้ป่วยอาการรุนแรงเพิ่มมากขึ้น
12.นพ.สมศักดิ์ กล่าวย้ำอีกว่า ปัจจุบันมีเตียงรวมทั้งหมด 9,317 เตียง มีเตียงที่มีผู้ป่วยแล้ว 6,294 เตียง และยังว่างอยู่อีก 3,023 เตียง โดยยอมรับว่ายังมีผู้ป่วยที่ยังไม่มีเตียง ตามที่ได้กล่าวถึงสาเหตุไปในข้างต้น สำหรับการขาดรถนำส่งคนไข้ กระทรวงสาธารณสุขได้เพิ่มรถฉุกเฉินแล้ว 50 คัน และจะเพิ่มเป็น 100 คันทั่วประเทศ ภายใต้การดูแลของสายด่วน 1669 ของศูนย์เอราวัณ
13.นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า มีการประสานงานร่วมมือกับโรงแรมต่างๆ เพื่อนำมาจัดทำเป็นโรงพยาบาลสนามเพิ่ม คล้ายกันกับกรณีของการกักตัวจากผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ แต่ปรับมาใช้เป็นโรงพยาบาลสนาม โดยมีโรงแรมที่ลงทะเบียนเอาไว้แล้วตอนนี้ 34 แห่ง รองรับผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่เป็นกลุ่มอาการน้อย ส่วนห้องทดลองหรือคลินิก ที่ไม่ได้มีการประสานงานส่งตัวผู้ป่วยกับทางโรงพยาบาล จะต้องมีการทำ MOU กับโรงพยาบาล เพื่อให้มีการนำคนไข้เข้าสู่ระบบทั้งหมด โดยถ้าหากไม่มีการประสานงานกับโรงยาบาล ห้องทดลองและคลินิกต่างๆ จะมีความผิดตามกฎหมาย
14.นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน กล่าวว่า จำนวนเตียงของโรงพยาบาลเอกชน ได้มีการขยายเตียงภายใน เพื่อรองรับผู้ป่วยที่เชื้อลงปอดแล้ว 665 เตียง รวมถึงโรงพยาบาลสนามอีก 1,600 เตียง นพ.เฉลิม กล่าวอีกว่า โรงพยาบาลเอกชนยินดีให้ความร่วมมือกับภาครัฐแน่นอน
15.รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ประธานคณะกรรมการโรงพยาบาลในกลุ่มสถาบันการแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงการรองรับห้อง ICU ต่อผู้ป่วยขั้นวิกฤตว่า มีการประสานงานในโรงพยาลแต่ละเครือ โดยมีการขยายห้อง ICU เพิ่มขึ้นต่อสัปดาห์ และมีการโยกย้ายบุคลากรจากฝ่ายอื่น เข้ามาดูแลในภาค ICU มากขึ้น เนื่องจากจะมีตัวเลขผู้ป่วยอาการไม่รุนแรง ที่มีอาการรุนแรงมากขึ้น โดยมีแผนที่เตรียมเอาไว้ถึงกรณีเลวร้ายที่สุด คือ ICU สนาม หากมีผู้ป่วยอาการวิกฤตจำนวนมาก ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนสบายใจได้ เพราะตอนนี้ กราฟผู้ติดเชื้อเริ่มลดลง แสดงให้เห็นว่าประชาชนเริ่มยกการ์ดสูงมากขึ้น และขอให้รอการฉีดวัคซีนที่จะเพิ่มมากขึ้น
16.ทั้งนี้ ผู้ป่วย COVID-19 สามารถติดต่อสายด่วนจัดหาเตียง ในกรุงเทพฯ ได้ที่เบอร์ 1669 (กรุงเทพฯ) และสายด่วน สปสช. (ทั่วประเทศ) 1330 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดจน สายด่วนกรมการแพทย์ (กรุงเทพฯ และปริมณฑล) 1668 เวลา 8.00-22.00 น. โดยขอให้เป็นผู้ป่วยโทรติดต่อมา และเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบว่าเดิมเคยไปตรวจ COVID-19 ที่ใด ก่อนจะดำเนินการ เพื่อจัดหาเตียงต่อไป นพ.สมศักดิ์ ขอความกรุณายังไม่ให้ผู้ป่วยกักตัวเองอยู่บ้าน แต่ขอให้มานอนพักที่โรงพยาบาลก่อนในช่วงนี้ เนื่องจากไม่มั่นใจว่าจะสามารถกักตัว 14 วันได้อย่างถูกต้องหรือไม่
17.นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ติดเชื้อ แต่ยังไม่มีรถมารับนั้น ศูนย์เอราวัณได้ทำการจัดรถพยาบาลไปรับตามบ้านแล้ว แต่อาจจะช้าเล็กน้อย เพราะต้องวิ่งรถวน ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขยินดีรับทุกคำติชม โดยในขณะรอรถมารับ ให้แยกตัวเองจากคนในบ้านอื่นๆ 14 วัน แยกอาหาร แยกน้ำดื่ม แยกห้องน้ำ แยกเสื้อผ้า ตลอดจนสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ถ้าหากแยกไม่ได้ ให้ใช้เป็นคนสุดท้าย และทำความสะอาดทันที ทั้งนี้ หากว่าผู้ป่วยมีรถส่วนตัว สามารถนำรถมาจอดเองได้ที่โรงพยาบาล 14 วัน นพ.สมศักดิ์ เน้นย้ำความเป็นห่วงว่า ผู้ที่ไปตรวจตามห้องปฏิบัติการที่ไม่ใช่โรงพยาบาล ให้ตรวจสอบให้ดีว่ามีการรับรองมาตรฐานหรือไม่ เพราะอาจทำให้ผลการตรวจไม่ถูกต้อง
อ้างอิงจาก
https://www.prachachat.net/general/news-649913
https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/41018
https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E/145854
https://www.thairath.co.th/news/local/2072366
https://www.youtube.com/watch?v=MHxfRsv8a6A
https://www.youtube.com/watch?v=HrgkouUyDuM
#Recap #TheMATTER