เมื่อวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา กุลทรัพย์ วัฒนผล หรือ ‘อัพ VGB’ อดีตนักกีฬา E-sport อายุ 34 ปี ได้จากไปด้วยโรค Covid-19 โดยระหว่างที่เขารู้ตัวว่าได้รับเชื้อ เขาได้พยายามติดต่อหาโรงพยาบาลเพื่อรักษาตัว อย่างไรก็ตาม กว่าที่เขาจะได้เข้ารักษาเชื้อไวรัสก็ลามลงไปถึงปอดเขา ก่อนที่จะเสียชีวิตเพียง 2 วันหลังเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
.
1. วันที่ 13 เมษายน กุลทรัพย์เริ่มกักตัวอยู่บ้านเป็นวันแรก หลังจากทราบข่าวว่าเพื่อนที่ออกไปขี่มอเตอร์ไซค์ด้วยกันมีความเสี่ยง เนื่องจากทำงานเป็นดีเจ อยู่ในร้านย่านทองหล่อ
.
2. วันที่ 17 เมษายน เขาได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า กักตัวเองมา 5 วันแล้ว โควตาตรวจแถวบ้านก็ไม่มี สายด่วนก็โทรไม่ติด จนใกล้จะหายเองอยู่แล้ว ซึ่งช่วงนั้นตรงกับช่วงที่มีข่าวว่ามีผู้เข้ารับการตรวจ Covid-19 ที่โรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก จนโรงพยาบาลต้องปฏิเสธผู้เข้ารับการตรวจ
.
3. วันที่ 20 เมษายน เขาได้ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กคาดว่าตัวเองน่าจะติดเชื้อไวรัส เพราะมีอาการแสบคอ ตัวร้อน กินข้าวไม่ลง เดินไปห้องน้ำไม่ไหว ติดต่อโรงพยาบาลรอบบ้านตัวเองก็ไม่สำเร็จ ลองติดต่อไปที่โรงพยาบาลสนามเพื่อขอให้ส่งรถมารับ ทางนั้นก็บอกว่าเขาจำเป็นต้องมีผลตรวจยืนยันก่อนว่าป่วยจริง ซึ่งเขาก็พูดในไลฟ์ว่า “ประเด็นคือจะออกไปตรวจอย่างไร?”
.
4. วันที่ 21 เมษายน เขาได้เข้ารับการแอตมิตที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งย่านเกษตร โดยตรวจพบว่าเชื้อได้ลงปอดไปแล้ว จึงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
.
5. วันที่ 23 เมษายน กุลทรัพย์ถูกพาตัวเข้าห้องไอซียู เนื่องจากไม่สามารถหายใจเองได้แล้ว และเชื้อกินเนื้อปอดไปแล้วกว่าร้อยละ 80
.
6. วันเดียวกันเวลาราว 22.20 น. แพทย์ได้ปั๊มหัวใจกุลทรัพย์
.
7. วันเดียวกันเวลาราว 23.30 น. กุลทรัพย์เสียชีวิต
.
8. หลังจากเขาเสียชีวิต ได้มีเพื่อนคนหนึ่งโพสต์ถึงกรณีของกุลทรัพย์ว่า “วันนี้ไปดูอัพมา อัพตัวแข็ง มือเท้าเย็น เลือดไหลที่จมูก พยายามปิดตาให้หลายครั้งแต่ก็ไม่หลับ พอนึกถึงก่อนเข้า ICU อัพถามว่า อยู่คนเดียวเหงาไหม เดี๋ยวจะรีบกลับมา แต่สุดท้ายก็ไม่มีโอกาสกลับมาแล้ว ส่วนสาเหตุที่อาการทรุดหนัก เพราะเจ้าตัวมีความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่อยากเรียกแกร็บหรือแท็กซี่เพราะกลัวคนอื่นติด แต่ขับรถเองก็ไม่ไหว จึงได้แต่รักษาตัวอยู่บ้านและโทรศัพท์เรียกเจ้าหน้าที่ให้มารับเอง”
.
9. รายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ที่ออกอากาศวันที่ 24 เมษายน ได้ติดต่อพูดคุยกับเพื่อของกุลทรัพย์คนหนึ่ง ซึ่งเล่าว่า เขาได้ช่วยกุลทรัพย์ติดต่อหาโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษา แต่ไม่มีโรงพยาลไหนเลยที่จะรับตัว ไม่ว่าโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชน โดยมีเพียงคำตอบให้รักษาตัวดูอาการตัวเองไปก่อน ทางสายด่วนของรัฐก็ไม่รับสายบ้าง หรือตอบกลับมาว่ากุลทรัพย์ยังไม่มีผลตรวจเชื้อ ยังไม่สามารถส่งรถมารับได้
.
10. เพื่อนของอัพกล่าวต่อในรายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ว่า “ความพร้อมของระบบสาธารณสุขที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่บอกว่าพร้อม บอกว่ามีเตียงพอ มันพอจริงๆ หรือแค่คำโฆษณาเพื่อปกปิดปัญหาว่าพวกคุณจัดการได้ล้มเหลว”
.
11. กรณีของกุลทรัพย์ทำให้สังคมตั้งคำถามต่อการจัดการกับโรค Covid-19 ที่อยู่กับสังคมไทยมานานกว่า 1 ปี เหตุใดกว่า 1 ปีแล้ว ถึงยังมีผู้ป่วยที่ไม่สามารถเข้าถึงการรักษาได้เช่นนี้ เหตุใดกว่า 1 ปีแล้ว ระบบที่ควรจะรัดกุม ครอบคลุม กลับหละหลวมและกระจุกตัว รวมไปถึงเหตุใดมาถึงขณะนี้ การแจกจ่ายวัคซีนยังล่าช้าและไร้ซึ่งประสิทธิภาพ
.
.
อ้างอิง: