อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อัพเดตความคืบหน้าในการจัดหาวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าประเทศไทยจะได้รับวัคซีนไฟเซอร์จำนวน 10-20 ล้านโดส ในช่วงไตรมาสที่ 3 เป็นต้นไป
อนุทิน เปิดเผยว่า ได้มีการประชุมหารือร่วมกับผู้แทนบริษัทไฟเซอร์ ประเทศไทย เพื่อจัดหาวัคซีนไฟเซอร์ให้ประชาชน ได้ข้อสรุปว่า ประเทศไทยจะได้รับวัคซีนดังกล่าวจำนวน 10-20 ล้านโดส คาดว่าจะเริ่มส่งมาไทย ช่วงไตรมาสที่ 3 – 4 ของปีนี้ (หรือช่วงกรกฎาคม ถึงพฤศจิกายน) โดยจะให้สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อ.ย.) อำนวจความสะดวกในการขึ้นทะเบียนให้เร็วที่สุด
สำหรับแผนการฉีดวัคซีน อนุทินเปิดเผยว่า จะกระจายวัคซีนให้กับเด็กอายุ 12-18 ปีก่อน เพื่อให้ครอบคลุมประชากรทั้งหมด เพราะไฟเซอร์เป็นวัคซีนชนิดเดียวในตอนนี้ ที่อนุมัติให้ใช้ในผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ในส่วนของราคาจัดซื้อ ยังอยู่ระหว่างการเจรจา จึงไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ทาง ครม. ได้อนุมัติงบกลางไว้สำหรับสำรองค่าใช้จ่ายในส่วนนี้แล้ว
นอกจากนี้ อนุทินกล่าวถึงการนำเข้าวัคซีนรายอื่นว่า หากผู้ผลิตมีความพร้อมทางด้านการจัดส่งวัคซีนมายังประเทศไทย โดยสามารถกำหนดกรอบเวลาที่แน่ชัด ก็ติดต่อเข้ามาได้ กระทรวงสาธารณสุขมีความยินดีจะรับข้อเสนอ
สำหรับวัคซีนไฟเซอร์ เป็นวัคซีนชนิด mRNA ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่ามีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อ COVID-19 กลายพันธุ์ จึงทำให้หลายคนมองว่า วัคซีนชนิดนี้เหมาะกับสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับสายพันธุ์อังกฤษ อีกทั้งยังเรียกร้องให้ภาครัฐใช้ไฟเซอร์เป็นวัคซีนตัวหลักในการฉีดให้ประชาชน แทนวัคซีนซิโนแวค และแอสตร้าเซนเนก้า ที่มีความเป็นไปได้ว่าจะไม่สามารถสกัดเชื้อกลายพันธุ์ได้
อ้างอิงจาก
https://www.pptvhd36.com/…/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0…/146976
https://www.prachachat.net/politics/news-664045
https://web.facebook.com/…/a.20959089…/4369158889785625/
https://www.matichon.co.th/politics/news_2711096