เป็นหนึ่งข่าวดีที่เข้ามาในวันนี้ (9 พฤษภาคม) หลังบริษัทวัคซีน AstraZeneca สำนักงานใหญ่ได้ยืนยันว่า วัคซีนของบริษัทที่ผลิตโดยบริษัทสยาม ไบโอไซเอนส์ได้รับการรับรองจากห้องปฏิบัติการในยุโรปและสหรัฐฯ แล้ว
โดย เจมส์ ทีก ประธานบริษัท AstraZeneca (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในวันนี้ ผมมีหนึ่งเรื่องที่น่ายินดีมาแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า ตัวอย่างวัคซีนป้องกัน COVID-19 ของ AstraZeneca ที่ผลิตโดยสยามไบโอไซเอนซ์ผ่านเกณฑ์การตรวจสอบคุณภาพจากห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ของ AstraZeneca ทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกาเรียบร้อยแล้ว แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของเราที่จะส่งมอบวัคซีนป้องกัน COVID-19 ชุดแรกให้แก่รัฐบาลไทยเร็ว ๆ นี้”
ทั้งนี้ตามแผนของรัฐบาลไทย ภายในสิ้นปี 2564 จะทำการฉีดวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดส ครอบคลุมร้อยละ 70 ของผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย (รวมถึงชาวต่างชาติและแรงงานข้ามชาติ) โดยช่วงมิถุนายน – กรกฎาคมที่จะถึงนี้ บริษัทสยามไบโอไซเอนส์เตรียมจะส่งมอบวัคซีน AstraZeneca จำนวน 16 ล้านโดสให้แก่ทางการไทย โดยได้วางไว้ว่าวัคซีนจะถูกนำมาฉีดสำหรับกลุ่มที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป และผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค
โดยจากข้อมูล “แนวทางการให้วัคซีน COVID-19 ในสถานการณ์การระบาดปี 64 ของประเทศไทย” โดยกรมควบคุมโรค ระบุว่าประชาชนสามารถปฏิเสธในการรับวัคซีนได้ แต่ไม่ระบุว่าสามารถเลือกยี่ห้อได้หรือไม่ โดยภายในรายงานเขียนไว้ว่าวัคซีน AstraZeneca สามารถป้อง
กันการติดเชื้อทุกรูปแบบได้ 54.1% ป้องกันโรคแบบมีอาการได้ 70.4% และป้องกันการเสียชีวิตได้ 100%
โดยในรายงานของกรมควบคุมโรคกำหนดให้ฉีดวัคซีน AstraZeneca จำนวน 2 โดส โดยให้เว้นระหว่างฉีดเป็นเวลา 10-12 สัปดาห์ และระบุถึงผลข้างเคียงจากวัคซีนที่อาจเกิดขึ้นว่าประมาณร้อยละ 88 ของผู้ได้รับวัคซีนมีอาการเฉพาะที่ไม่รุนแรง และผู้สูงวัยจะมีผลข้างเคียงน้อยกว่าคนกลุ่มอื่น
ทั้งนี้ หน่วยงานที่ดูแลด้านยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพของสหราชอาณาจักร (MHRA) และยุโรป (EMA) ระบุไว้ในรายงานว่า ความสัมพันธ์ระหว่างวัคซีน AstraZeneca กับภาวะลิ่มเลือดอุดตันอยู่ที่ร้อยละ 2-4 ต่อการฉีดหนึ่งล้านครั้ง และแม้จะอยู่ในระดับที่น้อยมาก แต่ประเทศเดนมาร์กก็ตัดสินใจแบนการใช้วัคซีนชนิดนี้แล้ว
โดยมาถึงวันที่ 8 พฤษภาคม 2564 ไทยมีจำนวนการฉีดวัคซีนสะสมที่ 1,743,720 โดส โดยคิดเป็นผู้ได้รับวัคซีน 1 เข็มร้อยละ 1.924 ของประชากรทั้งหมด และได้รับ 2 เข็มร้อยละ 0.71 ของประชากรทั้งหมด
ดังนั้น หากยึดตามแผนการฉีดวัคซีนของรัฐบาลให้ได้ 100 ล้านโดส ในระยะเวลาที่เหลือก่อนสิ้นปี 2564 รัฐบาลต้องฉีดวัคซีนให้ได้วันละไม่ต่ำกว่า 440,000 โดส
สำหรับบริษัทสยามไบโอไซเอนส์ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2552 โดยมีทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ถือหุ้นทั้ง 100% ด้วยทุนจดทะเบียน 5,000 ล้านบาท โดยสยามไบโอไซเอนส์และ AstraZeneca ได้ร่วมลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงค์เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยมีเนื้อความว่า “ทุกฝ่ายตกลงจะทำงานร่วมกัน เพื่อเสริมศักยภาพด้านกำลังการผลิตของ บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ให้พร้อมรองรับการผลิตวัคซีนจำนวนมากเพื่อให้ประเทศไทยและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถเข้าถึงวัคซีนได้อย่างเท่าเทียมและทันเวลา”
อ้างอิง:
https://news.thaipbs.or.th/content/304039
https://www.bbc.com/thai/thailand-56995915
https://www.pptvhd36.com/news/ประเด็นร้อน/137254
#Brief #TheMATTER #Covid19 #Coronavirus