คุณอยากฉีดวัคซีน ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัทใด หนึ่งในตัวเลือกเหล่านั้นมี Sputnik V ของรัสเซียหรือเปล่า? ล่าสุด วลาดิเมียร์ ปูติน (Vladimir Putin) ประธานาธิบดีรัสเซีย เพิ่งออกมายืนยันว่า หากคุณกังวลเรื่องคุณภาพวัคซีน Sputnik V ขอให้คุณมั่นใจว่า วัคซีนของรัสเซีย “มีความน่าเชื่อไม่ต่างไปจากปืน AK-47”
การเปรียบเทียบวัคซีนของ Sputnik V ว่าไม่ต่างอะไรไปจากอาวุธสงคราม อย่างปืนไรเฟิล AK-47 เกิดขึ้นหลังจากที่มีการประชุมออนไลน์ ระหว่างปูติน กับรองนายกรัฐมนตรีของรัสเซียอย่าง ทัตยานา โกลิโควา (Tatyana Golikova) โดยปูติน ได้กล่าวในการประชุมตอนหนึ่งว่า วัคซีน Sputnik V “น่าเชื่อถือไม่ต่างอะไรไปจากปืนไรเฟิลคาลาชนิคอฟ”
อาวุธฟืนไรเฟิลคาลาชนิคอฟ หรือที่มีชื่อเรียกว่า AK-47 ถูกออกแบบโดยนายพลของโซเวียต ที่เป็นทหารวิศวกรอย่าง มิคาอิล คาลาชนิคอฟ (Mikhail Kalashnikov) ก่อนที่มันจะถูกพัฒนาออกมาเป็น AKM และ AK-74 โดยมันถือได้ว่าเป็นอาวุธทรงอานุภาพอันดับต้นๆ ในช่วงสงครามเย็น ปัจจุบัน ปืนชนิดนี้ยังคงได้รับความนิยม และประจำการอยู่ในหลายกองทัพทั่วโลก
คำกล่าวยืนยันของปูตินนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่หน่วยงานด้านสาธารณสุขของรัสเซีย เพิ่งขึ้นทะเบียนรับรองประสิทธิภาพของวัคซีน Sputnik V ชนิดใช้โดสเดียว หรือที่มีชื่อเรียกทางการว่า Sputnik Light ที่ส่งประสิทธิภาพป้องกัน COVID-19 กว่า 79.4 เปอร์เซ็นต์ โดยวัคซีนของรัสเซียบริษัทนี้ ถูกพัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยีเดียวกัน กับที่ใช้ในการพัฒนาวัคซีนของ AstraZeneca และ Johnson & Johnson ด้วยการตัดต่อเชื้อ COVID-19 ที่ไม่มีความอันตรายแล้ว เข้าไปในร่างกายมุษย์ เพื่อสร้างภูมิต้านทาน
ความกังวลต่อคุณภาพของวัคซีน เกิดขึ้นในหมู่ประชาชนชาวรัสเซีย หลังจากที่มีความสงสัยเกิดขึ้นว่า ทำไมรัฐบาลถึงเร่งรัด ให้มีการรับรองวัคซีน Sputnik V อย่างรวดเร็ว ในกรุงมอสโก ตั้งแต่ช่วง ค.ศ.2020 ที่ผ่านมา โดยสำนักผลสำรวจเลวาดาของรัสเซีย เปิดเผยว่า มีชาวรัสเซียที่ทำแบบสอบถาม และตอบว่าพวกเขาไม่พร้อมจะฉีดวัคซีนจาก Sputnik V กว่า 62 เปอร์เซ็นต์ ถึงแม้ผลวิจัยจะระบุว่า Sputnik V เพียงโดสเดียว มีประสิทธิภาพกว่าเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ดี มีผลการทดสอบประสิทธิภาพของ Sputnik V ที่เพิ่งออกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อ้างว่า วัคซีนของพวกเขาแบบ 2 โดส มีประสิทธิภาพป้องกัน COVID-19 กว่า 92 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ นอกจากรัสเซียแล้ว วัคซีนของ Sputnik ยังถูกใช้ในรัฐอื่นๆ อีก เช่น อาร์เจนตินา ปาเลสไตน์ เวเนซูเอลา ฮังการี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอิหร่าน
ทั้งนี้ เมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ยืนยันว่า มีการเจรจากับปูตินโดยตรง เพื่อจัดหาวัคซีนของ Sputnik V เข้ามาใช้ในไทย โดยวัคซีนของ Sputnik V จะเป็น 1 ใน 3 บริษัท ที่ทางรัฐบาล จะจัดซื้อวัคซีนเพิ่มเติมประมาณ 35 ล้านโดส ทำให้ Sputnik เป็นวัคซีนที่ทางการจะฉีดให้แก่ประชาชนในอนาคต ร่วมกับวัคซีนอื่นๆ อย่าง AstraZeneca และ Sinovac ซึ่งถูกฉีดอยู่ในปัจจุบันนี้
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/world-europe-57016265
https://www.bbc.com/news/health-55900622
https://news.thaipbs.or.th/content/303585
#Brief #TheMATTER