แม้หลายประเทศจะเดินหน้าฉีดวัคซีนให้ประชาชนมากกว่าครึ่งสำเร็จ แต่ข่าวคราวการกลายพันธุ์ของไวรัส COVID-19 ก็ยังมีมาเรื่อยๆ และปฏิเสธไม่ได้ว่ามันสร้างความกังวลอย่างมากว่าวัคซีนที่เรามีอยู่ในมือนั้น ดีเพียงพอสำหรับการรับมือกับสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่วิวัฒนาการตัวเองอยู่เสมอหรือไม่
สหราชอาณาจักรเองเป็นประเทศที่สามารถปูพรมฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้อย่างรวดเร็วในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา แต่ในช่วงหลังหลายๆ พื้นที่ตรวจพบการระบาดของ COVID-19 อินเดีย รัฐบาลจึงเร่งหาแนวทางเพื่อสกัดกั้นการระบาดละลอกใหม่ ด้วยการเร่งฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้กับประชาชน เพื่อทดลองว่า การฉีดวัคซีนเพิ่ม จะมีผลต่อการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันอย่างไร
การทดลองนี้มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Cov-Boost โดยจะมีการนำอาสาสมัครจำนวน 2,886 คน ที่ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า และไฟเซอร์ครบ 2 โดส มาฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ซึ่งตัววัคซีนที่ใช้บูสเตอร์นั้น จะมีทั้งหมด 7 ชนิด เพื่อศึกษาประสิทธิภาพ และความแตกต่างของวัคซีนแต่ละตัว
รายละเอียดวัคซีนที่จะใช้ในการบูสเตอร์ มีตั้งแต่วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า โมเดอร์นา จอห์นสันแอนจอห์นสัน โนวาแวกซ์ ซึ่งอยู่ระหว่างการประเมินโดยหน่วยงานกำกับดูแลยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ (MHRA) และยังมีไฟเซอร์ ซึ่งล่าสุดรัฐบาลสั่งเพิ่ม 60 ล้านโดส สำหรับการนี้โดยเฉพาะ
สำหรับอีก 2 ชนิดที่เหลือเป็นวัคซีนที่กำลังอยู่ในการทดลองทางคลินิกระยะ 3 ได้แก่ วัคซีนเคอร์แวค (CureVac) ที่ใช้เทคโนโลยี mRNA ในการพัฒนา และวัคซีนวัลเนวา (Valneva) ที่พัฒนาโดยการใช้ไวรัส Sars-CoV-2 มากระตุ้นการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งทางรัฐบาลของสหราชอาณาจักรได้รับรองปลอดภัยในการใช้วัคซีนเหล่านี้แล้ว
ศาสตราจารย์เซาล์ เฟาสต์ (Saul Faust) ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทางคลินิก NIHR Southampton และหัวหน้าการทดลอง กล่าวว่า ความคาดหวังสูงสุดคือการศึกษานี้จะทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของระดับแอนติบอดีได้ในปริมาณที่เพียงพอจะครอบคลุมทั้งสายพันธุ์ที่กำลังระบาดอยู่ และสายพันธุ์กลายพันธุ์อื่นๆ
เฟาสต์ และทีมวิจัยจะวัดระดับการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นหลังจากฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ว่ามันสามารถสกัดกั้น COVID-19 กลายพันธุ์ใหม่ๆ รวมถึงสายพันธุ์ที่น่ากังวล (variants of concern) อาทิ สายพันธุ์อังกฤษ บราซิล แอฟริกาใต้ หรืออินเดียได้หรือไม่ นอกจากนี้ทีมงานจะตรวจสอบผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นทั้งในกลุ่มผู้สูงอายุ และวัยรุ่น
แมตต์ แฮนค็อค (Matt Hancock) รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ขณะนี้มีผู้ใหญ่ 7 ใน 10 คนได้รับวัคซีน COVID-19 แล้วอย่างน้อย 1 ครั้ง และรัฐบาลจะทำทุกอย่างเพื่อให้มั่นใจว่าประเทศนี้ปลอดภัยจากภัยคุกคามที่ส่งผลต่อความมั่นคงด้านสุขภาพ พร้อมเชิญชวนให้ประชาชนที่รับวัควีนครบโดสแล้ว มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษานี้ เพื่อร่วมกันปกป้องกลุ่มผู้เปราะบางที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ทั่วโลก
อ้างอิงจาก
https://www.reuters.com/…/uk-begins-booster-shot-trial…/
https://www.bbc.com/news/uk-england-cumbria-57169995…
https://www.gov.uk/…/world-first-covid-19-vaccine…