วัคซีน Moderna จะเป็นวัคซีนทางเลือก ที่จะถูกนำเข้ามาใช้ในไทย อย่างน้อยในช่วงปลายปีนี้ ล่าสุด รายงานของทางบริษัท Moderna ระบุว่า วัคซีนของพวกเขาส่งประสิทธิผลอย่างมาก ในกลุ่มประชากรวัยรุ่นอายุ 12-17 ปี
หลังจากช่วงทดลองทางคลินิกของ Moderna ในกลุ่มตัวอย่างประชากรตัวอย่างอายุ 12-17 ปี จำนวน 3,732 ราย ทางบริษัทพบว่า กลุ่มวัยรุ่นไม่มีการติดเชื้อ COVID-19 เลย หรือคิดเป็นอัตรา 100 เปอร์เซ็นต์ หลังจากได้รับวัคซีนของพวกเขาครบโดส ทั้งนี้ Moderna กำลังเตรียมยื่นการอนุมัติ การฉีดวัคซีนของตนเองในประชากรอายุ 12-17 ปี กับทางองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ ในช่วงเดือนมิถุนายนที่จะถึง
หาก Moderna ได้รับการอนุมัติ ให้ใช้ฉีดในกลุ่มประชากรวัยรุ่นแล้ว มันจะทำให้วัคซีนของพวกเขา เป็นเจ้าที่สอง ที่สามารถฉีดให้กับกลุ่มวัยรุ่นได้ หลังจากที่ Pfizer ได้รับการอนุมัติให้ฉีดในประชากรอายุ 12-15 ปี โดยปัจจุบันนี้ Moderna สามารถฉีดให้ได้แก่คนที่มีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป
อย่างไรก็ดี ผลลัพธ์ของประสิทธิภาพและความปลอดภัย ของวัคซีน Moderna ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรมากนัก และมันยังส่งผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัย ไม่ต่างไปจากวัคซีนของ Pfizer ซึ่งผลิตขึ้นบนฐานเทคโนโลยี mRNA คล้ายกัน
การเตรียมอนุมัติฉีดวัคซีนของ Moderna และ Pfizer ในก่อนหน้านี้ ให้แก่กลุ่มประชากรวัยรุ่นนั้น จะเป็นความหวังในการที่สหรัฐฯ จะสามารถกลับมาเปิดโรงเรียนได้ตามปกติ เมื่อพวกเขามั่นใจว่า ประชากรวัยรุ่นในประเทศจะได้รับวัคซีน ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย ซึ่งจะช่วยลดอัตราการติดเชื้อ การแพร่เชื้อ การป่วย และการตาย ได้อย่างสูง
ก่อนหน้านี้ Moderna รายงานว่า วัคซีนของพวกเขาเพียงโดสเดียว มีประสิทธิผลป้องกัน COVID-19 ได้ถึง 93 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ดี รายงานผลข้างเคียงในผู้ใหญ่ เมื่อได้รับวัคซีนของพวกเขาพบว่า มีอาการปวดหัว เหนื่อยล้า ปวดกล้ามเนื้อ และชาเล็กน้อย อย่างไรก็ดี ยังไม่มีอาการข้างเคียงที่รุนแรงเกิดขึ้น
การรับรองในครั้งนี้ จะช่วยให้ลดความกังวลของผู้ปกครอง ที่จะนำลูกของพวกเขาไปฉีดวัคซีน ไม่ว่าจะจากทั้งของ Moderna หรือ Pfizer ก็ตาม อีกทั้งยังจะตอกย้ำให้พวกเขามั่นใจได้ว่า ลูกๆ ของพวกเขาจะปลอดภัยจาก COVID-19 และสามารถกลับมาดำเนินชีวิตประจำวันอย่างปกติได้อีกครั้ง
อ้างอิงจาก
#Brief #TheMATTER