หลังเร่งปูพรมฉีดวัคซีนให้ประชาชนอย่างหนักในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน สหราชอาณาจักรไม่พบผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 รายใหม่เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เกิดการระบาดในช่วงแรก เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ.2020
จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่า 4 ประเทศในเครือสหราชอาณาจักร ซึ่งประกอบด้วยอังกฤษ เวลส์ สก๊อตแลนด์ และไอร์แลนด์เหนือ ไม่พบผู้เสียชีวิตรายใหม่ในวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการของสหราชอาณาจักร อยู่ที่ 127,782 ซึ่งนี่นับเป็นครั้งแรกที่ยอดรวมรายวันไม่เพิ่มขึ้นนับตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2020
แม้ว่าการที่มีผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 เป็นศูนย์จะเป็นเรื่องน่ายินดี แต่ผู้เชี่ยวชาญและนักวิทยาศาสตร์หลายคนออกมาเตือนว่าไม่ควรชะล่าใจ โดยเฉพาะขณะนี้ สหราชอาณาจักรกำลังเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดของ COVID-19 กลายพันธุ์ตัวใหม่ B.1.617 ที่มีการพบครั้งแรกในประเทศอินเดีย โดยบางส่วนเรียกร้องให้รัฐยุติมาตรการผ่อนคลายการล็อกดาวน์ที่มีกำหนดไว้ในวันที่ 21 มิถุนายนนี้
ศ.เซอร์ มาร์ค วัลพอร์ต อดีตหัวหน้าที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์ของรัฐบาล กล่าวว่า สหราชอาณาจักรกำลังอยู่ในบริเวณตีนเขาของการละบาดระลอกที่ 3 “ผมหวังว่าจะไม่ใช่ แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้” เซอร์ มาร์ค กล่าวเสริมว่า ในขณะที่ COVID-19 สายพันธุ์อังกฤษกำลังหายไป สายพันธุ์อินเดียกำลังรุกคืบเข้ามา
การผ่อนคลายมาตรการควบคุม COVID-19 ของสหราชอาณาจักร เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลสามารถปูพรมฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้จำนวนมากในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา เพื่อหวังว่าจะกลับมาเปิดเศรษฐกิจของประเทศที่ซบเซาลงได้ในเร็ววัน
สหราชอาณาจักรมีประชากรอยู่ราวๆ 66.65 ล้าน ปัจจุบัน มีการฉีดวัคซีนแล้วจำนวน 65,211,877 โดส โดยมีผู้รับวัคซีนเข็มแรก 39,477,158 คน หรือประมาณ 59% และมีผู้รับวัคซีนเข็มที่ 2 แล้วจำนวน 25,734,719 คน หรือประมาณ 38%
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/uk-57320320
https://www.theguardian.com/…/zero-daily-covid-deaths…
https://coronavirus.data.gov.uk/details/vaccinations
https://news.google.com/covid19/map?hl=th…
#Brief #TheMATTER