วัคซีนแต่ละบริษัท กระตุ้นภุมิคุ้มกัน ซึ่งส่งผลต่อการป้องกัน และลดการแพร่เชื้อต่างกันออกไป ล่าสุด บาห์เรน ได้ประกาศว่า ประชาชนที่เคยได้รับการฉีดวัคซีน Sinopharm ครบโดส สามารถมาขอรับการฉีดวัคซีนของ Pfizer ได้อีกโดส เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
โดยประชาชนที่เคยได้รับการฉีดวัคซีน ของ Sinopharm ครบทั้ง 2 โดสแล้ว ไปเป็นเวลา 6 เดือน จะสามารถมาขอรับการฉีดวัคซีนของ Pfizer ได้อีก 1 โดส โดยการประกาศดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากที่บาห์เรนกำลังเผชิญหน้า กับการระบาดระลอกใหม่ ถึงแม้จะมีอัตราการฉีดวัคซีนต่อจำนวนประชากร รุดหน้าเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
ประชาชนในบาห์เรน จะมีแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์ที่มีชื่อว่า BeAware ซึ่งเปิดบริการให้ประชาชน ลงทะเบียนขอรับการฉีดวัคซีน เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน โดยจะเป็นวัคซีนของ Pfizer หรือ Sinopharm ก็ได้ ทั้งนี้ รัฐบาลบาห์เรนแนะนำ ให้ผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี ผู้ที่มีโรคอ้วน หรือผู้ที่มีปัญหาเรื่องระบบภูมิคุ้มกัน เข้ารับการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ด้วยวัคซีนของ Pfizer แทน Sinopharm
วาลีด คาห์ลิฟะ อัล มานี (Waleed Khalifa al-Manea) ปลัดกระทรวงสาธารณสุขของบาห์เรน ออกมากล่าวว่า ถึงแม้ว่า Sinopharm จะมีประสิทธิผล ในการป้องกัน COVID-19 ที่สูงก็ตาม แต่พวกเขาตระหนักดีว่า วัคซีนของ Pfizer ก็มีประสิทธิผลที่สูงด้วยเช่นกัน นี่จึงเป็นเหุตผลว่า ทำไมบาห์เรน จึงเลือกนำ Pfizer มาฉีดเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน เป็นเข็มที่ 3 ให้แก่ประชาชน
“ประชาชนชาวบาห์เรน จะมีสิทธิเลือกว่า พวกเขาจะฉีดวัคซีนเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันเมื่อไหร่ หลังผ่านไปแล้ว 6 เดือน จากการรับวัคซีนครบโดสครั้งก่อน” รัฐบาลบาห์เรนให้สัมภาษณ์แก่ AP บาห์เรนเปิดเผยอีกว่า วัคซีนที่พวกเขาใช้ฉีดให้แก่ประชาชน มีประสิทธิภาพสูงมาก โดย 90 เปอร์เซ็นต์ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ คือ ผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนแต่แรก
จากผลการวิจัยล่าสุดพบว่า ทั้ง 2 วัคซีนของ Sinopharm ซึ่งผลิตจากเชื้อไวรัสที่ตายแล้ว มีประสิทธิผลอยู่ที่ 73 และ 78 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ดี ผลการทดลองจัดทำขึ้นแค่ในกลุ่มผู้ชายวัยรุ่น และยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับวัคซีนมากนัก ซึ่งวัคซีนย่อมต่างกันออกไปกับ Pfizer ที่ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยี mRNA ทั้งนี้ Sinopharm เพิ่งได้รับการรับรอง สำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน จากองค์การอนามัยโลก (WHO) เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ปัจจุบันนี้ ประชาชนกว่าครึ่งของบาห์เรน ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว แต่ประเทศของพวกเขากำลังเจอกับการแพร่ระบาดในระลอกใหม่ ซึ่งทำให้บาห์เรนต้องทำการล็อกดาวน์เป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยพวกเขามียอดผู้ติดเชื้อยืนยันสะสม 1.6 ล้านราย และเสียชีวิตสะสมอีกประมาณพันราย
อ้างอิงจาก
https://www.washingtonpost.com/world/2021/06/03/bahrain-seychelles-sinopharm-vaccine/
#Brief #TheMATTER