เมื่อเวลาประมาณ 9.00-10.00 น. กลุ่มไรเดอร์ส่งอาหาร/ของ/ผู้โดยสาร แม่บ้านทำความสะอาด และเทอร์ราปิสต์นวดนอกสถานที่ ได้เดินทางมายื่นข้อเรียกร้อง 5 ข้อถึงนายกรัฐมนตรี บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้มีการคุ้มครองสิทธิแรงงานบนระบบออนไลน์ในภาวะการระบาดของ COVID-19
โดยก่อนที่จะมีการยื่นหนังสือได้มีการนำป้ายพร้อมข้อความมาชูบริเวณหน้าทำเนียบ ซึ่งส่วนใหญ่มีเนื้อหาสะท้อนปัญหาที่พวกเขาพบเจอจากการระบาดของไวรัส COVID-19 รวมถึงมีกิจกรรมทำความสะอาดรั้วทำเนียบและส่งจดหมายถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ข้อเรียกร้อง 5 ข้อที่อยู่ในจดหมายมีใจความว่า
1. ให้รัฐบาลจัดให้แรงงานบนแพลตฟอร์มและประชาชนทุกคนมีสิทธิตรวจหาเชื้อ COVID-19 ฟรี โดยไม่มีเงื่อนไขและค่าใช้จ่าย
2. ให้รัฐบาลจัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในการลดความรุนแรงของอาการ การแพร่เชื้อ รวมถึงสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ต่อโรค COVID-19 ได้จริง และให้ฉีดให้แก่กลุ่มกลุ่มไรเดอร์ส่งอาหาร/ของ/ผู้โดยสาร แม่บ้านทำความสะอาด และเทอร์ราปิสต์นวดนอกสถานที่ ซึ่งเป็นคนทำงานด่านหน้าก่อนโดยเร็ว
3. สำหรับแรงงานบนแฟลตฟอร์มและประชาชนที่ติดเชื้อ COVID-19 ก่อนหน้านี้ ให้รัฐบาลกำกับโรงพยาบาลไม่ให้เก็บค่าใช้จ่าย รวมถึงดูแลให้เขาเข้าถึงสิทธิรักษาอย่างรวดเร็วและเหมาะสมต่ออาการ
4. ให้รัฐบาลพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาที่้เหมาะสมให้แก่แรงงานบนแพลตฟอร์มและประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียม โดยไม่ต้องพิสูจน์ความจน
5. ในระยะยาว ให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาการจัดหมวดหมู่การจ้างงานผิดประเภท (Misclassification) และเร่งตีความสถานะการจ้างงานให้ตรงกับสภาพความเป็นจริงที่แรงงานกำลังเผชิญ
โดยในเวลาประมาณ 10.00 น. สุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ได้ลงมารับหนังสือจากกลุ่มเรียกร้องบริเวณหน้าทำเนียบ ก่อนผู้ชุมนุมจะพักกินข้าวและแยกย้ายกันกลับบ้าน
สุธิลา ลืนคำ ผู้จัดการโครงการสถาบันแรงงานและเศรษฐกิจที่เป็นธรรม ได้ให้สัมภาษณ์กับ The MATTER ว่าคนกลุ่มนี้อยู่ในสถานะจ้างงานที่ไม่เป็นธรรมมาตลอด ไม่มีสวัสดิการคุ้มครองจากบริษัทเจ้าของแพลตฟอร์ม รวมถึงพวกเขายังต้องเสี่ยงต่อการใกล้ชิดและสัมผัสไวรัส COVID-19 ดังนั้น รัฐบาลควรให้ความสนใจคนกลุ่มนี้ และเร่งจัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพให้พวกเขาโดยเร็ว
พี่เอ (นามสมมุติ) หนึ่งในแม่บ้านบนแพลตฟอร์มออนไลน์ และผู้ที่เคยติดเชื้อไวรัส COVID-19 หลังสามี ซึ่งเป็นพนักงานส่งของบนแพลตฟอร์มติดเชื้อและมาสัมผัสเธอ เล่าให้ฟังว่าครั้งแรกที่รู้ว่าสามีและเธอติดเชื้อ เธอรู้สึกเหมือนอยากฆ่าตัวตาย เพราะกว่าจะรักษาตัวเสร็จ รายได้เธอคงหดหายไปมาก และยิงช่วงนี้เธอมีค่าใช้จ่ายจำเป็นมากมายรออยู่ ทั้งค่าการศึกษาบุตร ค่าเช่าห้องพัก รวมถึงค่าใช้จ่ายประจำเช่นค่าอาหาร เธอหวังว่าหลังผ่านไปครบ 3 เดือนเธอจะได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ และสามารถกลับไปใช้ชีวิตและทำงานได้ตามปกติ
เข้าไปดูเพจ สถาบันแรงงานและเศรษฐกิจที่เป็นธรรม Just Economy and Labor Institute ได้ที่:
https://www.facebook.com/JustEconLaborInstitute
#BRIEF #TheMATTER #แรงงาน