ใกล้ครบปี ที่อัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง ‘วรยุทธ อยู่วิทยา’ หรือบอส หลานของผู้ก่อตั้งแบรนด์เครื่องดื่มชูกำลังชื่อดัง ในข้อหาขับรถประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จนทำให้ทุกข้อหาในคดีขับรถยนต์ชนตำรวจจราจร สน.ทองหล่อเสียชีวิต เมื่อปี 2555 หมดไป ทำให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการยุติธรรมไทยอย่างหนักหน่วง มีการสืบหาข้อเท็จจริงว่ามีอดีตนายตำรวจบางคนเข้าไปช่วยเปลี่ยนตัวเร็วความเร็ว (จาก 177 กิโลเมตร/ชั่วโมง เหลือไม่ถึง 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง) จนสำนวนอ่อนและนำไปสู่การสั่งไม่ฟ้องโดยอัยการ
กระทั่ง นายกรัฐมนตรีต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีวิชา มหาคุณ อดีตกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธาน มาสืบหาข้อเท็จจริง และส่งรายงานให้ ป.ป.ท.เอาผิดกับผู้ช่วยเหลือบอสให้หลุดคดี ด้านอัยการกับตำรวจก็ทนแรงกดดันจากสังคมไม่ไหว อ้างพยานหลักฐานใหม่ยื่นฟ้องบอส 2 ข้อหา เสพยาเสพติด-ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งจะหมดอายุความในปี 2570
ล่าสุด นิวัติไชย เกษมมงคล โฆษก ป.ป.ช. เปิดเผยว่า หลังจาก ป.ป.ท.โอนสำนวนมาให้ ป.ป.ช. ตอนปลายปี 2563 ทาง ป.ป.ช.ก็ส่งเรื่องให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรอง พิจารณาสำนวนที่ได้รับมาโดยเฉพาะรายงานของคณะกรรมการชุดวิชา ซึ่งเห็นว่าข้อเท็จจริงมีมูลเพียงพอต่อการตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนต่อไปได้ จึงได้ทำเรื่องเสนอที่ประชุม ป.ป.ช. พิจารณาตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนต่อไป
“โดยผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้จะมีด้วยกัน 10 คนขึ้นไป” นิวัติไชยกล่าว
เมื่อถามว่าข้อหาในการตั้งเรื่องไต่สวนคือเรื่องใด ระหว่างตำรวจท้องถิ่นไม่ออกหมายจับตอนปี 2555 มีอดีตนายตำรวจมาช่วยเหลือเปลี่ยนความเร็วทำให้สำนวนอ่อน หรือการสั่งไม่ฟ้องคดีของอัยการจนคดีสิ้นสุด โฆษก ป.ป.ช.กล่าวว่า ทุกๆ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการ ‘ร่วมกันช่วยเหลือ’ ให้บอสไม่ถูกดำเนินคดีในกระบวนการยุติธรรม โดยอายุความแต่ละกรรมจะแตกต่างกัน แต่ยืนยันว่าไม่ยังไม่หมดอายุความอย่างแน่นอน
วันเดียวกัน ผู้บริหารสำนักงาน ป.ป.ช. ยังเปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชนผ่านโปรแกรมซูมว่า ในวันที่ 22 ก.ค.2564 เป็นวันสำคัญที่ ป.ป.ช.จะต้องพิจารณาคดีที่เกิดก่อนกฎหมาย ป.ป.ช.ฉบับใหม่ประกาศใช้ (22 ก.ค.2561) ให้แล้วเสร็จภายในสามปี จำนวนหลายพันคดี โดยมีคดีสำคัญๆ อาทิ คดีสินบนการบินไทยจัดซื้อเครื่องยนต์โบอิ้ง, คดีรุกป่าใน จ.ภูเก็ตและ จ.นครราชสีมา, คดีทุจริตจัดซื้อเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด GT200 และ Alpha6 (เหลือ 26 สำนวน), คดีเงินทอนวัด (เหลือ 46 สำนวน), คดีทุจริตสร้างสนามกีฬาฟุตบอล (เหลือ 21 สำนวน) ฯลฯ
ทั้งนี้ ในเดือน ส.ค.2564 ทาง ป.ป.ช.จะเปิดเผยผลการประเมินคะแนนคุณธรรมและความโปร่งใส (ITA) ของหน่วยงานรัฐกว่า 8,300 แห่ง ประจำปี 2564 ด้วย โดยหลายปีหลัง ผล ITA ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าค้านความรู้สึกคนของผู้คน เช่นบางหน่วยงานที่ถูกวิจารณ์เรื่องการปกปิดข้อมูลกลับได้รับคะแนน ITA สูง เป็นต้น โดยผู้บริหาร ป.ป.ช.ยืนยันว่า จะปรับปรุง ITA ให้สะท้อนความโปร่งใสตามความเป็นจริงมากยิ่งขึ้น โดย 30% มาจากประเมินโดยบุคคลภายนอก 30% ประเมินโดยบุคคลภายใน และ 40% มาจากการเปิดเผยข้อมูลไว้บนเว็บไซต์
#Brief #TheMATTER