หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการสร้างวัคซีนป้องกัน COVID-19 บริษัท AstraZeneca ก็ได้เดินหน้าเพื่อทดลองยาต้าน COVID-19 ตัวใหม่ แต่ผลการทดลองล่าสุดกลับไม่เป็นอย่างที่หวัง หลังพบว่ายายังมีประสิทธิภาพต่ำในการป้องกันการป่วย COVID-19 แบบแสดงอาการ ในกลุ่มผู้ที่เพิ่งสัมผัสเชื้อ
บริษัท AstraZeneca สร้างยาต้าน COVID-19 ในชื่อ ‘AZD7442’ ซึ่งมีส่วนประกอบของสารภูมิต้านทานโมโนโคลนนอล (Monoclonal Antibody) แต่หลังจากการทดลองกับอาสาสมัครที่เป็นผู้ใหญ่จำนวน 1,121 คน ซึ่งเป็นผู้ที่ไม่เคยรับวัคซีนมาก่อน และมีประวัติสัมผัสผู้ป่วย COVID-19 ในช่วง 8 วันพบว่า AZD7442 มีประสิทธิภาพเพียง 33% ในการป้องกันการป่วยแบบแสดงอาการในผู้ที่เพิ่งรับเชื้อ COVID-19 เมื่อเทียบกับยาหลอก (Placebo)
เมเน แพนกาลอส (Mene Pangalos) รองประธานบริหาร AstraZeneca ระบุว่า แม้การทดลองครั้งนี้จะไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อแบบแสดงอาการได้ตามที่คิดไว้ แต่ก็มีเรื่องที่น่าพอใจอยู่บ้าง เนื่องจาก ผลการป้องกันของ AZD7442 ในกลุ่มผู้ทดลอง มีบางส่วนที่ตรวจหาสารพันธุกรรมไวรัสด้วย PCR แล้วมีผลออกมาเป็นลบ
AstraZeneca มุ่งมั่นที่จะสร้างยาต้าน COVID-19 เนื่องจากยังผู้คนบางส่วนไม่สามารถรับยาผ่านการฉีดวัคซีนได้ นอกจากนี้ ต้องยอมรับว่าในหลายพื้นที่วัคซีน COVID-19 ยังเป็นสิ่งที่ขาดแคลน และ AZD7442 อาจมาเติมเต็มส่วนนี้ได้
ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ เองก็เห็นด้วยเช่นกัน จึงมอบเงินทุนสนับสนุนการพัฒนา AZD7442 อีกทั้งยังสั่งซื้อยาชนิดนี้ไป 700,000 โดส ตั้งแต่การทดสอบประสิทธิภาพยังไม่ได้รับการยืนยัน
ทั้งนี้ AstraZeneca ไม่ใช่บริษัทเดียวที่สร้างยาต้าน COVID-19 จากแอนติบอดี แต่ยังมีบริษัทคู่แข่งอย่าง Regeneron, Eli Lilly และ GlaxoSmithKline ที่ร่วมมือกับ Vir Biotechnology ซึ่งล่าสุด สหรัฐฯ ได้อนุมัติยาจากทั้ง 3 บริษัทให้ใช้งานกับกลุ่มเสี่ยง และผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนได้แล้ว
ขณะที่ สำนักงานยาแห่งยุโรป (EMA) ก็ได้รับรองการใช้ยาต้าน COVID-19 ของบริษัท Regeneron และกำลังอยู่ในระหว่างตรวจสอบยาจากบริษัท Eli Lilly, Celltrion และ GlaxoSmithKline อยู่ ซึ่งคาดว่าอาจจะอนุมัติให้มีการใช้ได้ในเร็วๆ นี้ เช่นกัน
อ้างอิงจาก
https://www.reuters.com/…/astrazeneca-says-its…/
https://www.channelnewsasia.com/…/astrazeneca-covid-19…
https://www.bloomberg.com/…/astra-s-antibody-cocktail…