วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นอีกสิ่งสำคัญในการพัฒนาประเทศ ล่าสุด นายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักร ได้ประกาศว่า เขาจะเพิ่มงบประมาณการวิจัย ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อให้สหราชอาณาจักรกลายเป็นอภิมหาอำนาจด้านวิทยาศาสตร์
บอริส จอห์นสัน (Boris Johnson) นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ประกาศว่าเขาเตรียมจะเพิ่มงบประมาณ ด้านการวิจัยเชิงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อีกทั้งจอห์นสันเอง ได้เตรียมจะลงมานั่งคุมเก้าอี้เป็นประธาน ของคณะกรรมการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เพื่อ “ควบคุมทิศทาง” ให้การวิจัยเป็นไปเพื่อ “ประโยชน์สาธารณะ” ด้วยตนเอง
ทั้งนี้ จอห์นสันจะไม่ได้ตัดสินใจเชิงนโยบายเพียงคนเดียว โดยเขาได้แต่งตั้งให้ เซอร์ แพทริค วอลแลนซ์ (Patrick Vallance) นักฟิสิกส์ซึ่งเป็นหัวหน้าที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของรัฐบาล เข้ารับตำแหน่งประธานสำนักงานยุทธศาสตร์เพื่อวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยวอลแลนซ์ซึ่งเป็นนักวิทยศาสตร์ จะให้คำปรึกษานายกรัฐมนตรีอย่างใกล้ชิด
“ด้วยทิศทาง จังหวะ และการสนับสนุนที่ถูกต้อง เราสามารถเติมเต็มชีวิตของเราด้วยวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีอีกมากมาย ที่จะช่วยเปลี่ยนผ่านชีวิตของสหราชอาณาจักรและโลก” จอห์นสันกล่าว พร้อมชี้ว่าการฉีดวัคซีนในสหราชอาณาจักรที่ผ่านมา ได้พิสูจน์แล้วว่า สหราชอาณาจักรมีขนาดและความเร็วมากพอ ที่จะกลายมาเป็นผู้นำด้านวิทยาศาสตร์ของโลกได้
รัฐบาลสหราชอาณาจักร ยังได้วางแผนจะเพิ่มงบประมาณ เพื่อทุ่มสรรพกำลังของพวกเขา ให้ประเทศของตัวเองกลายเป็นอภิมหาอำนาจด้านวิทยาศาสตร์ โดยเขาตั้งเป้าว่าจะเพิ่มงบประมาณ ด้านการวิจัยต่อปี จากเดิมที่ 1.5 หมื่นล้านปอนด์ (ประมาณ 6.6 แสนล้านบาท) ไปเป็น 2.2 หมื่นล้านปอนด์ (ประมาณ 9.7 แสนล้านบาท) ใน ค.ศ.2025
ทั้งนี้ งบประมาณจะเข้าไปอุดหนุนงานวิจัย ที่ตอบโจทย์ปัญหา ซึ่งกำลังท้าทายต่อมนุษย์ เช่น ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การยกระดับประเทศของตัวเอง ตลาดจนความอยู่ดีกินดีของทั่วโลก อย่างไรก็ดี มีคำวิจารณ์ว่า รัฐบาลอาจควบคุมงานวิจัย ด้วยการตัดสินใจทางการเมืองได้
“ผมนึกไม่ออกเลยว่า จะมีเวลาไหนในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา ที่ประชาชนทั้งประเทศจะรู้สึกทราบซึ้ง และเป็นหนี้บุณคุณอย่างเห็นได้ชัด จากวิทยาศาสตร์และนักวิทยาศาสตร์” จอห์นสันกล่าวในบทสัมภาษณ์กับ The Telegraph “ถ้า COVID-19 จะสอนอะไรให้แก่เรา ก็คงเป็นการสอนให้รัฐบาล ต้องออกมามีบทบาทในการเรียกร้อง ในการกำหนดกรอบความท้าทาย โดยเราหวังว่าวิทยาศาสตร์จะตอบโจทย์นี้ได้อย่างชัดเจน”
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/science-environment-57548531
#Brief #TheMATTER