เมื่อเวลาประมาณ 02.00-03.00 น. ที่ผ่านมา เกิดเหตุชายใส่ชุดลายพรางคล้ายทหารก่อเหตุบุกยิงพนักงานในร้านสะดวกซื้อ และโรงพยาบาลสนาม จ.ปทุมธานี ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย เบื้องต้น (10.00 น.) ยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้
สำนักข่าว ThaiPBS รายงานว่า ก่อนก่อเหตุกราดยิงโรงพยาบาลสนาม คนร้ายเข้าไปซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง แล้วมีปากเสียงกับพนักงาน เนื่องจากทำสินค้าแตก และไม่ยอมชำระสินค้า แล้วจึงเลี่ยงออกมา ก่อนที่เวลาประมาณ 02.00 น. คนร้ายจะกลับมาที่ร้านและยิงพนักงานคนดังกล่าวเสียชีวิต ก่อนจะขับรถหลบหนีออกไป
จากนั้นเวลาประมาณ 03.00 น. คนร้ายได้บุกเข้าไปในโรงพยาบาลสนาม สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ก่อนจะก่อเหตุกราดยิง ทำให้ผู้ป่วย COVID-19 เสียชีวิต 1 ราย เบื้องต้น คาดว่า ผู้เสียชีวิตไม่ได้รู้จักกับผู้ก่อเหตุเป็นการส่วนตัว เพราะเสียชีวิตระหว่างเดินออกมาจากห้องน้ำ และเจอคนร้ายพอดี ประกอบกับประตูด้านหน้าโรงพยาบาลสนามก็ถูกยิงจนแตก แล้วจึงบุกเข้าไป
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ก่อเหตุเป็นทหารเกณฑ์ สังกัดลพบุรี โดยได้แจ้งทางต้นสังกัดเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งเชิญพ่อแม่ของผู้ที่ก่อเหตุมาให้ข้อมูล ซึ่งพ่อแม่ระบุว่า ลูกชายมีอาการทางจิต และเคยมีประวัติคลุ้มคลั่งมาแล้ว
ขณะที่ พันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูล หลังคนร้ายสวมชุดลายพราง พบว่าปัจจุบันผู้ก่อเหตุไม่ใช่กำลังพลของกองทัพบก แต่เคยเป็นทหารเกณฑ์ ที่ปลดประจำการไปแล้ว ตั้งแต่ปี พ.ศ.2562
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ตำรวจระบุว่า คนร้ายขับรถกระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ รุ่นดี แม็ก สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 ฒข 6233 มุ่งหน้าไปทางภาคใต้ โดยการตรวจสอบสุดพบว่าอยู่ในพื้นที่ จ.ชุมพรแล้ว ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวระมัดระวังตัว และหากพบเห็นเหตุการณ์ผิดปกติใดๆ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่าจัดการด้วยตัวเอง เนื่องจาก คนร้ายมีอาวุธปืน อีกทั้งยังอยู่ในภาวะเครียด อาจก่อเหตุอีกครั้งได้
**อัพเดตล่าสุดเวลา 10.20 น. เจอตัวคนร้ายแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจา
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้หลายคนหวนนึกถึงเหตุ #กราดยิงโคราช และวิจารณ์ว่ากองทัพไม่ได้เรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์ดังกล่าวเลย แม้ว่าชายคนดังกล่าวจะปลดออกจากทหารเกณฑ์แล้ว แต่กองทัพต้นสังกัดควรมีส่วนรับผิดชอบ และแก้ไขปัญหาการควบคุมบุคลากรของตัวเอง ขณะที่หลายฝ่ายก็ตั้งคำถามถึงความปลอดภัยในการใช้ชีวิต ว่าเพราะเหตุใดเราจึงต้องมาระแวงว่า เหตุร้ายเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเองหรือไม่ ทั้งที่เราควรมีสิทธิจะใช้ชีวิตอย่างสบายใจในประเทศของเรา
อ้างอิงจาก
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/945135
https://www.komchadluek.net/news/crime/471589
https://www.thairath.co.th/news/crime/2123296
https://www.matichon.co.th/region/news_2792439