วัคซีนครบโดสบางชนิด อาจจะป้องกัน COVID-19 ไม่ได้นาน หรือไม่มีประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อได้มากนัก จึงจำเป็นจะต้องมีการฉีดเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน โดยมีงานวิจัยล่าสุดพบว่า AstraZeneca ในเข็มที่ 3 อาจเป็นคำตอบ
กลุ่มนักวิจัยของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด รายงานผลการวิจัยในการทดลองทางคลินิกพบว่า การฉีดวัคซีน AstraZeneca ในเข็มที่ 3 สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ในอาสาสมัครได้เป็นอย่างดี ท่ามกลางการหาทางรับมือกับเชื้อกลายพันธุ์ ที่แพร่ระบาดหนักขึ้นเรื่อยๆ
จากผลการทดลอง ทำให้นักวิทยาศาสตร์มั่นใจว่า ผู้ที่ได้รับวัค AstraZeneca ครบโดสแล้ว ควรเข้ารับการฉีดมันเพิ่มอีกเป็น 3 โดส เพื่อจะได้ช่วยให้ร่างกาย ขยายเวลาของการมีภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น จากเดิมที่มีการฉีด AstraZeneca เพียงแค่ 2 โดส ในระยะเวลาห่าง 4-12 สัปดาห์ ระหว่างโดสแรกและโดสที่สอง
งานวิจัยใช้อาสาสมัครจำนวน 90 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มคนแรกๆ ที่ได้รับวัคซีนของ AstraZeneca ไปก่อนใครในสหราชอาณาจักร ทั้งนี้ พวกเขาได้รับวัคซีนโดสที่ 3 ห่างจากโดสที่ 2 ประมาณ 30 สัปดาห์ ก่อนที่จะพบผลว่า ค่าภูมิคุ้มกันของอาสาสมัคร หลังรับวัคซีนโดสที่ 3 พุ่งสูงขึ้นกว่า 1 เดือนหลังการรับวัคซีนโดสที่ 2 ของพวกเขา
นักวิจัยระบุว่า นี่อาจเป็นสัญญาณที่ดี สำหรับการฉีด AstraZeneca ในโดสที่ 3 ซึ่งจะช่วยส่งประสิทธิผล ของการป้องกัน COVID-19 ผ่านการกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี สอดคล้องกันกับสายพันธุ์กลายพันธุ์ต่างๆ ที่กำลังระบาดในทั่วทุกมุมโลก ซึ่งทำให้นักวิทยาศาสตร์และหลายรัฐบาล กำลังพิจารณาการฉีดวัคซีนเพิ่มเป็น 3 เข็ม เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
การฉีดวัคซีน 3 เข็ม ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในสหราชอาณาจักร เพราะเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา สถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐฯ ได้เริ่มการทดลองทางคลินิกครั้งใหม่ ในการนำผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว เข้ารับการฉีดวัคซีนโดสที่ 3 โดยพวกเขาตั้งเป้าหมายการทดสอบเพื่อดูว่า วัคซีนของ Moderna จะสามารถเพิ่มภูมิต้านทาน เพื่อรับมือกับไวรัสได้หรือไม่ โดยคาดว่าผลการทดสอบ น่าจะออกมาในช่วงปลายฤดูร้อนของสรัฐฯ
ถึงแม้ว่า AstraZeneca 3 เข็ม จะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี แต่ยังคงมีความกังวลในเรื่องปริมาณของวัคซีนจาก AstraZeneca ที่ผลิตไม่ทันการใช้ โดยเฉพาะในประเทศยากจน ที่เข้าถึงวัคซีนได้ยากกว่าประเทศร่ำรวย หรือประเทศที่มีโรงงานผลิควัคซีน
นอกจากวัคซีน 3 เข็มของ AstraZeneca แล้ว เมื่อวันอาทิตยืที่ผ่านมา (27 มิถุนายน) AstraZeneca ได้เริ่มทดลองการฉีดวัคซีนตัวใหม่ ที่ออกมาแบบมาเพื่อใช้ป้องกันเชื้อกลายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้) โดยบางงานวิจัยระบุว่า AstraZeneca แบบเดิม ที่กำลังใช้ฉีดกันอยู่นี้ อาจไม่มีผลในการป้องกันเราจากเชื้อกลายพันธุ์เบตาได้ โดยเรายังคงต้องรอผลลัพธ์ของการทดลองกันต่อไป
อ้างอิงจาก
https://www.nytimes.com/2021/06/28/world/astrazeneca-vaccine-booster-shot.html
https://clinicaltrials.gov/ct2/show/NCT04889209
#Brief #TheMATTER