ยังคงพบกันเรื่อยๆ สำหรับคนที่ติดเชื้อ COVID-19 แม้จะรับวัคซีน Sinovac ครบ 2 เข็มแล้ว โดยล่าสุดเป็นเคสของ รศ.พญ.ประภาพร พิสิษฐ์กุล ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ออกมาเปิดเผยว่าตัวเองติดเชื้อ COVID-19 พร้อมเล่าถึงรายละเอียดประสิทธิภาพ และการกระตุ้นภูมิของวัคซีน Sinovac
หมอประภาพรเปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “I got both Sinovac and Covid” พร้อมเล่าว่า ตัวเองได้รับวัคซีน Sinovac โดยหลังฉีดวัคซีน 2 สัปดาห์ เธอได้ไปตรวจระดับภูมิคุ้มกัน Neutralizating antibody (NAb) พบว่าสูงถึง 92.9% ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างน่าพอใจเลยทีเดียว แต่หลังจากนั้น 2 เดือน หมอประภาพรได้ตรวจระดับภูมิอีกครั้ง พบว่าค่า NAb ลดลงมาเหลือเพียง 65.7% หรือลดลงเกือบ 30% และช่วงที่ค่าภูมิลดลงนี่เอง เป็นช่วงที่เธอรับเชื้อ COVID-19 มา
หมอคาดว่า ตัวเองได้รับเชื้อมาจากการสัมผัสกับอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งมีผู้ติดเชื้อใช้งานก่อนหน้าแล้ว โดยอุปกรณ์เหล่านั้นถูกใช้งานในห้องแล็บ ซึ่งมีอาการเย็น และปิดมิดชิด ทำให้รับเชื้อได้ง่าย นอกจากนี้ หมอยังมีประวัติรับอาหารจากคนที่ติดเชื้อ (ซึ่งฉีด Sinovac ครบ 2 โดสแล้ว และมีค่า NAb อยู่ที่ 60.04%) แม้สุดท้ายจะแยกกันกินคนละพื้นที่ แต่ก็ไม่อาจเลี่ยงเชื้อได้อยู่ดี
สิ่งนี้เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า COVID-19 รอบนี้ ติดง่ายมากขึ้น คนที่ฉีดวัคซีนครบ 2 คน และมีภูมิขึ้นทั้งคู่ก็ยังสามารถแพร่เชื้อ และรับเชื้อได้ รวมถึงการอยู่ในห้องปิด ที่เคยมีคนแพร่เชื้อไว้ก่อนหน้า ก็ทำให้ติดเชื้อได้เช่นกัน ประกอบกับภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีน Sinovac ครบ 2 เข็มลดลงเกือบๆ 30% ในเวลาเพียง 2 เดือน ซึ่งไม่เพียงพอในการต้านไวรัสกลายพันธุ์ได้ (ในกรณีของหมอประภาพรคาดว่าติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้า)
จากประสบการณ์การทำงาน และการติดเชื้อ COVID-19 หมอประภาพรได้แนะนำวิธีการทางภูมิคุ้มกันวิทยา ที่จะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd immunity) ได้จริง โดยระบุว่ามี 2 แนวทาง ได้แก่
- สร้างภูมิคุ้มกันหมู่จากวัคซีน ซึ่งก็ต้องใช้วัคซีนที่มีประสิทธิภาพและมีการฉีดให้ทั่วถึง
- ปล่อยให้เกิดการติดเชื้อทั้งหมด เป็นการคัดเลือกตามธรรมชาติ (Natural Selection) “ใครมีสุขภาพดีภูมิคุ้มกันดีก็อยู่รอด หรืออ่อนแอก็พ่ายแพ้ไป”
และตอนนี้ประเทศไทยเดินทางมาถึงทางแยกแล้วว่า จะไปต่อด้วยวิธีไหน โดยหมอประภาพรได้ฝากข้อความถึงผู้บริหารประเทศว่า ณ ตอนนี้สิ่งที่ควรทำที่สุดคือการนึกถึงประชาชน เหนือผลประโยชน์ใดๆ ก่อนที่ประเทศเราจะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ด้วยการติดเชื้อกันหมด
นอกจากนี้ รัฐควรพิจารณาจัดหาวัคซีน mRNA มาฉีดกระตุ้นเป็นเข็มที่ 3 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และให้ทบทวนแนวคิดที่จะนำวัคซีน Sinovac มาเป็นวัคซีนกระตุ้นอีกครั้ง เนื่องจาก จนถึงตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลชี้ชัดว่าฉีดไปแล้วภูมิจะอยู่ได้นานหรือไม่
อ้างอิงจาก
https://www.dailynews.co.th/regional/853834…
https://web.facebook.com/prapaporn.pisitkun/posts/4414033398615884