เรื่องสลดใจเกิดขึ้นในแคนาดาอีกครั้ง หลังจากที่มีการค้นพบ หลุมศพนิรนามเพิ่มเติมอีกกว่า 160 หลุม ในพื้นที่ใกล้เคียงกับโรงเรียนประจำของเด็กชนพื้นเมือง บริเวณเกาะเซาเทิร์นกัฟ ซ้ำรอยกับการค้นพบก่อนหน้านี้ โดยต้นตอของเหตุการณ์เกิดขึ้นมีมาจากอะไร และมันส่งผลอย่างไรต่อแคนาดา The MATTER ได้สรุปเรื่องนี้มาไว้ให้แล้ว
1.กลุ่มอาสาสมัครจากชนพื้นเมืองเพเนลากุต ในรัฐบริติชโคลัมเบีย ค้นพบหลุมศพ “ที่ไม่ถูกบันทึกในเอกสาร และไม่มีการระบุชื่อ” ฝังอยู่ใต้ดิน ใกล้กันกับโรงเรียนประจำเกาะกูเปอร์ คล้ายกันกับกรณีที่ค้นพบหลุมศพนิรนามก่อนหน้านี้ โดยการค้นพบดังกล่าว ได้มีการนำเครื่องเรดาร์ส่องลงไปใต้ดิน ก่อนจะพบกับหลุมศพกว่า 160 หลุม
2.มีการระบุเอกสารจาก ค.ศ.1997 ระบุว่า โรงเรียนประจำของเด็กชนพื้นเมืองเหล่านี้ ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลแคนาดา ทั้งนี้ ด้วยความที่หลุมศพไม่ได้มีการระบุชื่อ และไม่มีเอกสารบันทึกถึงผู้ตาย ทีมค้นหาจึงยังคงระบุไม่ได้ว่า ศพใต้ดินนั้นเป็นศพของผู้ใหญ่หรือเด็กจำนวนกี่ราย “มันเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะมองข้ามเรื่องการกระทำที่เป็นการฆ่าล่างเผ่าพันธุ์ และการละเมิดสิทธิมนุษยชนนี้” แถลงการณ์ของเผ่าเพเนลากุต กล่าวถึงเหตุสลดในครั้งนี้
3.การค้นพบหลุมศพ 160 หลุม ใกล้กันกับโรงเรียนประจำเกาะกูเปอร์ครั้งนี้ เป็นการค้นพบหลุมศพนิรนามเพิ่มเติม หลังจากที่เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แคนาดามีการพบศพเด็กจำนวน 215 ร่าง ใต้พื้นของโรงเรียนประจำแคมลูปส์อินเดียน ในรัฐบริติชโคลัมเบียเช่นเดียวกัน
4.บาดแผลทางประวัติศาสตร์ของแคนาดานี้ ถูกซ้ำเติมอีกครั้งเพียงชั่วข้ามเดือน ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีการค้นพบหลุมศพเพิ่มอีก 701 หลุม ที่โรงเรียนประจำมารีเวล ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐซัสแคตเชวัน การค้นพบดังกล่าวได้ตอกย้ำปัญหาเชื้อชาติ และการกดขี่ชนพื้นเมืองจากเจ้าอาณานิคมในแคนาดา
5.ผู้รอดชีวิตจากโรงเรียนประจำเหล่านี้ เคยระบุว่า พวกเขาเห็นเด็กนักเรียนด้วยกันบางคน เสียชีวิตหลังจากที่ถูกพาไปยังแม่น้ำ หลังจากที่พวกเขาพยายามหลบหนีออกจากโรงเรียน เนื่องจากถูกคุกคาม ข่มขู่ และทำร้ายร่างกาย
6.โรงเรียนประจำเหล่านี้ เปิดทำการมาตั้งแต่ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ก่อนที่จะเริ่มทะยอยปิดตัวลงไปในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ทั้งนี้ รัฐบาลแคนาดาได้เคยออกมากล่าวขอโทษ และแสดงความเสียใจ ต่อเหตุการณ์ดังกล่าว โดยรัฐบาลจัดสรรงบประมาณ ในการเร่งค้นหาหลุมศพและผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญดังกล่าว ทั้งนี้ รัฐบาลถูกวิจารร์ว่า พวกเขาตอบรับกับเรื่องนี้ช้าไป ทั้งๆ ที่มีรายงานว่าอาจมีเรื่องสลดเหล่านี้เกิดขึ้นจริง ซึ่งมันถูกเปิดเผยออกมาตั้งแต่ ค.ศ.2015 แล้ว
7.“ผมอยากบอกกับชนเผ่าเพเนลากุต และชุมชนคนพื้นเมืองทั่วทั้งแคนาดาว่า หัวใจของผมแตกสลาย ผมทราบดีว่า การค้นพบจะทำให้เกิดรอยแผลบาดลึก ลงในจิตใจของครอบครัวและผู้รอดชีวิต และชนพื้นเมือง กับชุมชนก็ต่างได้เข้าใกล้กับความรู้สึก และข้อเท็จจริงที่พวกเขารู้กันมาอย่างยาวนาน แด่ครอบครัวของชนเผ่าเพเนลากุต พวกเราอยู่กับพวกคุณ” จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดากล่าวถึงเหตุสลดล่าสุด
8.จากรายงานของ The Truth and Reconciliation Commission ระบุว่า มีเด็กชนพื้นเมืองจำนวนมาก ถูกคุกคาม ใช้ความรุนแรง และสังหาร ในโรงเรียนประจำเหล่านี้ โดยโรงเรียนลักษณะดังกล่าว ถูกสร้างขึ้นเพื่อสอนหนังสือ ให้ชนพื้นเมืองถูกกลืนเข้ากับวัฒนธรรมของชาวตะวันตก ก่อนที่การมีอยู่ของโรงเรียนเหล่านี้ จะนำมาซึ่งชีวิตของเด็กบริสุทธิ์อย่างน้อยกว่า 4 พันรายที่เสียชีวิตลง จากการถูกคุกคามและคุมขัง
9.หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดได้ถูกเปิดเผย มีความพยายามเรียกร้อง ขอให้พระสันตะปาปาฟรานซิส ออกมาแสดงความขอโทษ จากเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากโรงเรียนประจำในแคนาดาเหล่านี้ ถูกวางพื้นฐานการเรียนการสอนภายใต้ศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก ซึ่งขึ้นตรงต่อสำนักพระสันตะปาปาในฐานะประมุขของศาสนจักรโรมันคาทอลิก
10.ด้วยกระแสเรียกร้องดังกล่าว ช่วงต้นเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา วาติกันได้ออกแถลงว่า พระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงเตรียมจะเข้าพบกับหัวหน้าเผ่าชนพื้นเมืองในแคนาดาทั้ง 3 เผ่า ได้แก่ เผ่าเฟิร์สเนชั่น เผ่าเมทิส และเผ่าอินูอิต เพื่อร่วมแก้ไขปัญหา และหาทางออกของเรื่องดังกล่าว ตลอดจนแนวทางที่พระสันตะปาปาจะกล่าวขอโทษต่อเรื่องน่าสลดทั้งหมดนี้ด้วยพระองค์เอง ในช่วงเดือนธันวาคมที่จะถึง
11.ก่อนหน้านี้ ใน ค.ศ.2015 โรงเรียนประจำในลักษณะเดียวกัน 2 แห่ง แต่สังกัดนิกายโปรเตสแตนท์ ได้ออกมาแถลงขอโทษ ในเหตุการณ์การทารุณกรรมเด็กชนพื้นเมืองจนเสียชีวิต ก่อนจะบริจาคเงินหลายล้านเหรียญแคนาดา หลังจากที่พวกเขาถูกอดีตนักเรียนในโรงเรียนประจำฟ้องร้อง
12.การค้นหาหลุมศพนิรนามในแคนาดาเหล่านี้ ยังคงเดินหน้าต่อไป โดยตัวแทนจากชนเผ่าต่างๆ ในแคนาดาระบุว่า การค้นพบหลุมศพเหล่านี้ ได้เปิดเผยการ “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ทางวัฒนธรรม” ที่ถูกปิดบังมาตลอดศตวรรษ โดย แคโรลีน เบนเนตต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความสัมพันธ์ชนพื้นเมือง ให้สัมภาษณ์ว่า โรงเรียนประจำของชนพื้นเมือง เป็นอีกหนึ่งในนโยบายอันน่าอับอายจากยุคอาณานิคม โดยขณะนี้ รัฐบาลกำลังจะ “ฟื้นความชอบธรรมทางศีลธรรมให้แก่ดวงวิญญาณอันบริสุทธิ์เหล่านี้”
อ้างอิงจาก
https://edition.cnn.com/2021/07/13/americas/canada-unmarked-indigenous-graves/index.html
https://thematter.co/brief/144582/144582
https://thematter.co/brief/147134/147134
https://www.nytimes.com/2021/06/30/world/canada/pope-francis-residential-schools-apology.html
#Brief #TheMATTER