หลังจากที่เมื่อวานนี้ (28 กรกฎาคม) ที่ 6 องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ได้เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกการประกาศใช้มาตรการควบคุม “เฟคนิวส์” ล่าสุด รัฐบาลได้ประกาศราชกิจจานุเบกษา เพื่อควบคุมการรายงานข่าว อันอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐแล้ว
ราชกิจจานุเบกษา ประกาศข้อกำหนด ตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่ 29 โดยระบุว่า มีการเผยแพร่โดยทั่วไป ซึ่งข้อความอันเป็นเท็จ ที่อาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือน เพื่อให้ประชาชนเกิดความเข้ำใจผิดหรือสับสน ปฏิบัติตนไม่ถูกต้อง จนเกิดความเสียหาย หรือเหตุการณ์ร้ายแรงมากขึ้นในสถานการณ์ฉุกเฉิน จนกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ การละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น การรักษาความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือการรักษาสุขภาพของประชาชนโดยผ่านทางสื่อต่าง ๆ “โดยเฉพาะอินเทอร์เน็ต”
ทั้งนี้ ราชกิจจานุเบกษาให้เหตุผลว่า เพื่อความถูกต้องตามข้อเท็จจริง และความรับผิดชอบต่อความสงบสุขของสังคมส่วนรวม ตามพระราชกำหนดการบริหารในสถานการณ์ฉุกเฉิน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จึงได้ขอออกข้อหนด ได้แก่
1.ห้ามผู้ใดเสนอข่าว จำหน่าย หรือทำให้แพร่หลายซึ่งหนังสือ สิ่งพิมพ์ หรือสื่ออื่นใด ที่มีข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือเจตนำบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ทำให้เกิดความเข้ำใจผิดใน สถานการณ์ฉุกเฉิน จนกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
2.ในกรณีที่มีการกระทำเข้าข้อ 1 ให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการดทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แจ้งผู้รับใบอนุญาตให้บริการอินเทอร์เน็ต ว่าทุกรายมีหน้าที่ในการตรวจสอบว่าข้อความ หรือข่าวสารใดๆ หากอยู่ในเลขที่ไอพี (IP address) ที่ตนให้บริการ ให้แจ้งรายละเอียดมายัง กสทช. และให้ระงับบริการอินเทอร์เน็ตแก่เลขที่ไอพีนั้นโดยทันที
ทั้งนี้ ในตอนท้ายของราชกิจจานุเบกษา ได้ลงรายละเอียดว่า หากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ปฏิเสธไม่ทำตามเงื่อนไขที่กำหนด จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย ผ่านทาง กสทช. ต่อไป โดยประกาศจะมีผล ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ.2564 เป็นต้นไป
#Brief #TheMATTER