สหรัฐฯ เป็นอีกหนึ่งประเทศที่เผชิญหน้ากับ COVID-19 สายเดลตา และพยายามออกมาตรการต่างๆ เพื่อควบคุมการระบาดไม่ให้แพร่กระจายในวงกว้าง ซึ่งหนึ่งในมาตรการล่าสุดที่เตรียมพิจารณาคือ การกำหนดให้ชาวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้วเท่านั้น สามารถเดินทางเข้าประเทศได้
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังพัฒนาข้อกำหนดให้ชาวต่างชาติที่จะเดินทางมายังสหรัฐฯ ต้องฉีดวัคซีน COVID-19 ครบโดสแล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนยกระดับการจำกัดการเดินทางจากทั่วโลก และเพื่อให้การเดินทางเข้าสหรัฐฯ เป็นไปในลักษณะ “ปลอดภัยและยั่งยืน” อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการกำหนดกรอบเวลาที่แน่ชัดว่า มาตรการนี้จะเริ่มใช้เมื่อไหร่
เจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาวคนหนึ่งระบุว่า “คณะทำงานกำลังพัฒนานโยบายและกระบวนการวางแผนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเวลาที่เหมาะสมในการเปลี่ยนไปใช้ระบบใหม่นี้”
เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวบอกว่า รัฐบาลสหรัฐฯ มีความต้องการที่จะเปิดพรมแดนสำหรับการเดินทาง เพราะต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจรวมถึงธุรกิจการบิน แต่ในสถานการณ์ที่ COVID-19 สายพันธุ์เดลตากำลังรุกคืบอย่างหนัก ทำให้หลังจากนี้อาจไม่สามารถรับนักท่องเที่ยวโดยไม่คำนึงเรื่องการฉีดวัคซีนได้เช่นเดิม
ทำเนียบขาวกำลังหารือกับสายการบินต่างๆ เกี่ยวกับการดำเนินนโยบายดังกล่าว พร้อมทั้งพิจารณาเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ความน่าเชื่อถือหลักฐานที่จะใช้ในการยืนยันว่าฉีดวัคซีนแล้ว รวมถึงประเด็นเรื่องวัคซีน ว่าหากนักเดินทางฉีดวัคซีนที่ไม่ได้รับการอนุมัติใช้จากหน่วยกำกับดูแลของสหรัฐฯ จะได้รับการยอมรับให้เข้าประเทศหรือไม่
การวางแผนออกมาตรการกำหนดการเดินทาง นับเป็นการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจเลยทีเดียว เนื่องจากก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่สหรัฐฯ จะออกมาตรการจำกัดการเดินทางเป็นรายประเทศ ซึ่งครั้งแรกสุดเกิดขึ้นกับประเทศจีน ในเดือนมกราคม ค.ศ.2020 หลังจากนั้นเริ่มมีการขยายขอบเขตไปยังชาวต่างชาติที่เพิ่งมาจากสหราชอาณาจักร ประเทศในกลุ่มเชงเก้น (Schengen) 26 ประเทศ รวมไปถึงบราซิล ไอร์แลนด์ อินเดีย อิหร่าน และแอฟริกาใต้
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/world-us-canada-58095549
https://www.cnbc.com/2021/08/04/us-developing-plan-to-require-foreign-visitors-to-be-vaccinated-white-house-official-says.html
#Brief #TheMATTER