หลังจากที่ยืนกรานว่าการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ยังไม่จำเป็นมาพักใหญ่ ล่าสุด สหรัฐอเมริกาอนุมัติให้ประชาชนที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องฉีดวัคซีน COVID-19 กระตุ้นเข็มที่ 3 แล้ว โดยวัคซีนที่กำหนดให้เป็นบูสเตอร์โดสคือไฟเซอร์ และโมเดอร์นา
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา (CDC) แนะนำให้ชาวสหรัฐฯ ที่ภูมิคุ้มกันบกพร่องฉีดวัคซีน mRNA เข็มที่ 3 โดยผู้ที่ต้องการฉีดสามารถเดินทางไปฉีดที่หน่วยให้บริการได้เลย ไม่จำเป็นต้องมีใบรับรองแพทย์ หรือเอกสารยืนยัน เพื่อให้การเข้าถึงวัคซีนทำได้ง่าย และรวดเร็วมากที่สุด
คำแนะนำของ CDC เกิดขึ้นหลังองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) แก้ไขคำสั่งการใช้วัคซีนในกรณีฉุกเฉินของไฟเซอร์ และโมเดอร์นา เพื่อปูทางให้ประชาชนที่เคยปลูกถ่ายอวัยวะ หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ด้วยวัคซีนชนิดเดิม แต่หากไม่มีวัคซีนยี่ห้อเดียวกับเข็มที่ 1 และ 2 ก็สามารถสลับยี่ห้อได้
ทั้งนี้ ประกาศของ FDA ยังไม่ครอบคลุมถึงผู้ที่ฉีดวัคซีนจอห์นสันแอนจอห์นสัน เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลสนับสนุนเรื่องการฉีดบูสเตอร์โดสที่มากพอ
ปีเตอร์ มาร์คส์ เจ้าหน้าที่ FDA กล่าวในแถลงการณ์ว่า แนวทางนี้จะเป็นวิธีแก้ปัญหาภูมิคุ้มกันลดลงสำหรับผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว โดยคาดว่ามีประชาชนที่เข้าเกณฑ์ไม่เกิน 3% จากประชากรทั้งหมด
เจเน็ต วูดค็อก รักษาการกรรมาธิการของ FDA เปิดเผยผ่านทางทวิตเตอร์ว่าการฉีดบูสเตอร์โดสด้วยไฟเซอร์และโมเดอร์นาจะเป็นประโยชน์กับคนที่มีสุขภาพร่างกายอ่อนแอ แต่กับประชาชนทั่วไปที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ยังไม่จำเป็นต้องฉีดเพิ่มในตอนนี้
สหรัฐฯ เผชิญหน้ากับการระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์เดลตาอย่างหนัก ภายในเวลาเพียง 1 เดือน พื้นที่เสี่ยงติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้นเป็นจาก 19% เป็น 98% อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ การระบาดส่วนใหญ่ยังเกิดขึ้นกับกลุ่มคนไม่ได้ฉีดวัคซีน รัฐบาลและหน่วยงานสาธารณสุขจึงเร่งออกมาตรการและนโยบายต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนออกมาฉีดวัคซีนกันมากขึ้น
อ้างอิงจาก
#Brief #TheMATTER