รู้หรือไม่? ต่อไปใช้แอพฯ Clubhouse และ Telegram จะต้องเก็บข้อมูลผู้ใช้เพื่อระบุตัวตน ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ลงนามในประกาศเรื่องหลักเกณฑ์การเก็บข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ โดยมีเนื้อหาหลักๆ คือ การกำหนดให้ผู้ให้บริการต้องเก็บข้อมูลเพื่อนำไปใช้พิสูจน์และยืนยันตัวตนของผู้ใช้
(สำหรับประกาศฉบับเต็ม อ่านได้ที่ : http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/E/188/T_0009.PDF?fbclid=IwAR2fYVZqMb8E8f14fmWyN-eJtL65M81ByY1opSxfe8Et1VtcEVG3q4iTAIQ )
ประกาศฉบับนี้มีชื่อเต็มๆ ว่า “หลักเกณฑ์การเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการ พ.ศ. 2564 ในราชกิจจานุเบกษา” โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งประเด็นสำคัญในประกาศฉบับนี้จะแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่
– แอพฯ Clubhouse และ Telegram ต้องเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนผู้ใช้งาน
– ผู้ประกอบการเป็นร้านอาหารหรือบริการใดๆ ที่มีบริการอินเทอร์เน็ตด้วย จะต้องติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อบันทึกตัวตนของลูกค้า
สำหรับข้อแรกคือ แอพฯ Clubhouse และ Telegram ต้องเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนผู้ใช้งาน อธิบายคร่าวๆ ก่อนว่าตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์บอกไว้ว่า ผู้ใช้บริการต้องเก็บล็อกที่สามารถระบุตัวตนผู้ใช้บริการได้ มาตั้งแต่แรก ผ่านช่องทางต่างๆ Proxy Server, Wi-Fi Hotspot หรืออื่นๆ
แต่ในประกาศฉบับใหม่นี้มีการเพิ่มมาตรฐานการเก็บข้อมูลเข้ามาในภาคผนวก เช่น ข้อมูลตัวอุปกรณ์ที่เข้าใช้งาน (system ID), รายงานการล็อกอินต้องระบุถึงการล็อกอินที่ไม่สำเร็จ ไปจนถึงรายละเอียดธุรกรรมที่กำลังใช้งาน
และยังเพิ่มหมวดหมู่ผู้ให้บริการเข้ามาเพิ่มคือ Clubhouse และ Telegram โดยให้ถือเป็น “ผู้ให้บริการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์, แอพพลิเคชัน ที่ให้บุคคลทั่วไปสามารถติดต่อสื่อสารข้อมูลถึงกันได้ (Online Application Store)” ซึ่งสรุปสั้นๆ คือหลังจากนี้ Clubhouse และ Telegram จะต้องเก็บข้อมูลผู้ใช้ในลักษณะที่สามารถระบุรายละเอียดผู้ใช้บริการเป็นรายบุคคลได้ (Identification and Authentication)
สำหรับข้อน่ากังวลต่อมาคือ เจ้าของร้านอาหารหรือร้านใดๆ ก็ตามที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตฟรี ต้องติดกล้องวงจรปิด เพื่อเก็บข้อมูลการใช้งาน โดยในภาคผนวก ข. กล่าวชัดเจนว่า “ผู้ประกอบการเป็นร้านอาหารหรือบริการใดๆ ที่มีบริการอินเทอร์เน็ตด้วย จะต้องติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อบันทึกตัวตนของลูกค้า หรือบันทึกรายละเอียดใดๆ ที่จะทำให้สามารถระบุตัวตนลูกค้าที่เข้ามาใช้อินเทอร์เน็ตในสถานประกอบการได้”
สำหรับข้อน่ากังวลต่อมาคือ เจ้าของร้านอาหารหรือร้านใดๆ ก็ตามที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตฟรี ต้องติดกล้องวงจรปิด เพื่อเก็บข้อมูลการใช้งาน โดยในภาคผนวก ข. กล่าวชัดเจนว่า “ผู้ประกอบการเป็นร้านอาหารหรือบริการใดๆ ที่มีบริการอินเทอร์เน็ตด้วย จะต้องติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อบันทึกตัวตนของลูกค้า หรือบันทึกรายละเอียดใดๆ ที่จะทำให้สามารถระบุตัวตนลูกค้าที่เข้ามาใช้อินเทอร์เน็ตในสถานประกอบการได้”
อ้างอิงจาก
https://www.blognone.com/node/124235
#Brief #TheMATTER