กลุ่มคนที่ทำงานหนักเป็นอันดับต้นๆ ในช่วงการแพร่ระบาด คงหนีไม่พ้นบุคลากรการแพทย์ อย่างไรก็ดี บุคลากรการแพทย์ในฟิลิปปินส์นับพันราย เริ่มทยอยลาออกจากโรงพยาบาล เนื่องจากภาระงานที่หนักอึ้ง ท่ามกลางตัวเลขผู้ติด COVID-19 ที่ล้นเกินโรงพยาบาล
“พยาบาลของเราหลายคนกำลังเสียขวัญ” เมลเบิร์ต เรเยส ประธานสมาคมพยาบาลฟิลิปปินส์ ให้สัมภาษณ์กับ Reuters หลังจากที่มีบุคลากรการแพทย์ในฟิลิปปินส์นับพัน เริ่มทยอยลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากเงินเดือนที่น้อย ซึ่งสวนทางกับภาระงานที่หนักมากขึ้นเรื่อยๆ
ลูว์ อดีตนางพยาบาลในแผนกฉุกเฉิน เปิดเผยกับ Reuters ว่า เธอตัดสินใจลาออกจากงาน เนื่องจากเธอไม่สามารถทนต่อสภาพการทำงานที่ย่ำแย่ ซึ่งถูกซ้ำเติมด้วยเงินเดือนที่น้อยนิด ลูว์เปิดเผยว่า ขณะที่เธอทำอาชีพพยาบาลนั้น เธอได้เงินเดือนเพียงแค่ 20,000 เปโซ (ประมาณ 13,000 บาท) ซึ่งเป็นเงินที่รวมค่าทำงานล่วงเวลาแล้วด้วย
ลูว์ไม่ใช่บุคลากรทางด้านการแพทย์เพียงคนเดียว ที่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพตัวเอง ยังมีพยาบาลอีกนับพันที่ตัดสินใจลาออก ถึงแม้ว่าอาชีพของพวกเขา จะสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาชีวิตของผู้คน ท่ามกลางการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในฟิลิปปินส์
สมาคมโรงพยาบาลเอกชนแห่งฟิลิปปินส์ (PHAPi) ได้ประมาณการตัวเลขนางพยาบาล ที่ลาออกจากอาชีพเมื่อปีที่แล้ว อยู่ที่ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ จากบรรดาเครือโรงพยาบาลเอกชนทั้งหมด โดยพวกเขาเกรงว่า การระบาดในระลอกล่าสุด ซึ่งเป็นการระบาดของเชื้อเดลตา จะยิ่งทำให้ฟิลิปปินส์เจอกับสถานการณ์การลาออกของบุคลากรการแพทย์ที่มีมากยิ่งขึ้น
เพียงแค่ในปีนี้ มีพยาบาลจากฟิลิปปินส์ ตัดสินใจเดินทางออกนอกประเทศแล้วกว่า 7,000 คน เพื่อไปทำงานในอาชีพเดียวกัน แต่ได้เงินเดือนที่มากกว่าในประเทศพัฒนาแล้ว เช่น สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า น่าจะมีนางพยาบาลจากฟิลิปปินส์แล้วนับแสนคน ที่ทำงานอยู่นอกบ้านเกิดของพวกเขาและเธอ
ปัจจุบัน ตัวเลขการติดเชื้อของฟิลิปปินส์พุ่งสูงทะลุ 1.75 ล้านราย และเสียชีวิตอีก 30,000 รายแล้ว โดยสหภาพแรงงานพยาบาลในฟิลิปปินส์รายงานว่า เบี้ยเลี้ยงรายเดือนของพยาบาลหลายคน คิดเป็นเงินเพียงแค่ 5,000 เปโซ (ประมาณ 3,300 บาท) เดฟ ซานโตส พยาบาลรายหนึ่งที่กำลังตัดสินใจว่าจะลาออกจากงาน กล่าวว่า “เราพยายามทำดีที่สุดแล้ว แต่เราก็คือคนคนหนึ่ง ที่รู้สึกเหนื่อยเป็น และเราก็มีความต้องการส่วนตัว”
อ้างอิงจาก
#Brief #TheMATTER