คนร้ายมักตายน้ำตื้นอยู่เสมอ เรื่องนี้เกิดขึ้นกับชายคนหนึ่ง ที่ตัดสินใจปลอมรถตู้ขนยาบ้า ให้เป็นรถขนวัคซีน COVID-19 อย่างไรก็ดี เขาถูกตำรวจจับ และถูกศาลตัดสินจำคุกไปในท้ายที่สุด
ชายชาวโปแลนด์ อายุ 50 ปี แอบขนยาบ้าน้ำหนักรวม 40 กิโลกรัม ในรถตู้ของเขา ที่มีการนำสติ๊กเกอร์แม่เหล็กตราบริษัท BioNTecH ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีน COVID-19 ร่วมกับทาง Pfizer เพื่อหวังจะตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจในนอร์เวย์
เจ้าหน้าที่ตำรวจนอร์เวย์ สังเกตเห็นความผิดปกติของรถตู้คันหนึ่ง ที่เดินทางผ่านช่องข้ามแดนมาจากเดนมาร์ก เนื่องจากรถตู้คันดังกล่าว มีสติ๊กเกอร์แม่เหล็ก เป็นตราบริษัท BioNTecH ที่ดูพิลึกกึกกือ แปะอยู่ที่ฝากระโปรงหน้ารถ และประตูข้างคนขับ ก่อนจะโบกเรียกรถเพื่อตรวจสอบจนพบว่า มันมียาบ้าจำนวนกว่า 40 กิโลกรัม ถูกยัดแฝงเอาไว้อยู่ใต้หลังคารถตู้ เจ้าหน้าที่จึงทำการจับกุมตัวชายคนดังกล่าวทันที
จากการสอบสวนพบว่า ชายรายดังกล่าวได้รับค่าจ้างในการขนยาบ้าเป็นเงิน 20,000 ยูโร (ประมาณ 7.8 แสนบาท) โดยเขาเช่ารถตู้จากเยอรมนี ก่อนจะขับไปรับยาบ้าดังกล่าวที่เนเธอร์แลนด์ โดยแรงจูงใจที่ทำให้เขาตัดสินใจมาขนยาบ้าในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากการว่างงานและไม่มีรายได้ ในช่วงการระบาดของ COVID-19
ทนายของชายผู้ก่อเหตุยังอ้างอีกว่า จำเลยตัดสินใจขนยาบ้า เพราะว่าผู้ว่าจ้างรู้ว่า ครอบครัวของจำเลยอาศัยอยู่ที่ไหนในเยอรมนี และเขากลัวว่าการปฏิเสธการขนยา อาจทำให้ผู้ว่าจ้างทำร้ายสมาชิกในครอบครัวได้ นอกจากนี้ เขายังนึกว่ายาที่ให้แอบลักลอบไปส่งนั้น เป็นเพียงแค่กัญชาไม่ใช่ยาบ้า
แต่คำให้การของเขาและทนาย ดูจะไม่เป็นประโยชน์ต่อคำตัดสิน เพราะศาลนอร์เวย์ได้มีคำสั่งจำคุกชายคนดังกล่าว เป็นเวลา 10 ปี 6 เดือน ผิดไปจากการคาดการณ์ว่า เขาอาจจะถูกจำคุกเพียงแค่ 3-4 ปี ด้วยข้ออ้างของจำเลยเองว่า สิ่งที่เขาขนเป็นกัญชาไม่ใช่ยาบ้า
นอกจากสติ๊กเกอร์แม่เหล็กตราบริษัท BioNTecH แล้ว ศาลไม่รับฟังคำให้การของเขาเลย เนื่องจากมีการพบหลักฐานลายนิ้วมือ และ DNA ของชายคนดังกล่าว ติดอยู่ในถุงปิดผนึกสุญญากาศ ที่ใช้บรรจุยาบ้า นอกจากนี้ จากคำให้การของจำเลยเองยังระบุอีกว่า เขาถูกกระเป๋ายาที่ซุกอยู่บนช่องใต้หลังคารถใบหนึ่ง ตกใส่หัวตัวเองขณะขับรถด้วย งานนี้จึงทำให้คนขับรถขนวัคซีนปลอม (ปลอมยันรถ) ต้องติดคุกไปตามระเบียบ
อ้างอิงจาก
#Brief #TheMATTER