ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องการใส่ใจในทุกรายละเอียด เช่นเดียวกับเรื่องการฉีดวัคซีน เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่งตัดสินใจระงับการฉีดวัคซีน Moderna กว่า 1.63 ล้านโดส หลังจากมีการพบการปนเปื้อน ถึงแม้ว่าการปนเปื้อนนั้นจะไม่ส่งผลต่อคุณภาพวัคซีนก็ตาม
วัคซีน Moderna จำนวนกว่า 1.63 ล้านโดสในญี่ปุ่น ถูกระงับการฉีดโดยทันที หลังจากที่ทางการพบว่าในตัววัคซีน มีการปนเปื้อนอนุภาคฝุ่น โดยพวกเขาคาดว่า ฝุ่นเหล่านี้น่าจะติดมาในวัคซีน บนสายพานการผลิตในโรงงาน Moderna ที่สเปน
แถลงการณ์จากบริษัททาเคดะ ผู้นำเข้าวัคซีน Moderna ในญี่ปุ่นระบุว่า วัคซีนที่มีการปนเปื้อนฝุ่นเหล่านี้ ไม่ส่งผลต่อคุณภาพและประสิทธิภาพของวัคซีน แต่รัฐบาลญี่ปุ่นยังคงตัดสินใจหยุดระงับการฉีดเอาไว้ก่อน ถึงแม้ว่าวัคซีนชุดนี้จะถูกจัดส่งมาล่าช้ากว่ากำหนด เช่นเดียวกันกับวัคซีนของ Moderna ที่ส่งช้ากว่ากำหนดในเกาหลีใต้
“บริษัทกำลังตรวจสอบรายงาน และมุ่งมั่นที่จะทำงานอย่างรวดเร็วและโปร่งใส ร่วมกับบริษัททาเคดะ และหน่วยงานกำกับดูแลของภาครัฐ เพื่อจัดการกับปัญหาใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามมาได้” โฆษกของ Moderna กล่าวกับสำนักข่าวนิเคอิ
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น กำลังหารือกับบริษัททาเคดะ เพื่อวางแนวทางในการฉีดวัคซีน Moderna ให้แก่ประชาชนต่อไป โดยกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นระบุว่า การระงับการฉีดวัคซีน 1.63 ล้านโดสนั้น พวกเขาจะทำให้กระทบต่อแผนการเดินหน้าการฉีดวัคซีนในญี่ปุ่นให้น้อยที่สุด
สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นรายงานว่า สายการบิน ANA ของญี่ปุ่น ได้ยกเลิกการฉีดวัคซีน Moderna ให้แก่พนักงานของพวกเขาทันที จากเดิมที่มันมีกำหนดการฉีดในวันนี้ (26 สิงหาคม) อย่างไรก็ดี กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นไม่ได้ระงับการฉีด Moderna ในล็อตการผลิตอื่น
ทั้งนี้ ซูกะ โยชิฮิเดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นระบุว่า ญี่ปุ่นน่าจะมีการฉีดวัคซีนครบโดส ครอบคุลมประชากรทั้งสิ้น 60 เปอร์เซ็นต์ ภายในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีวัคซีนมากเพียงพอ ที่จะครอบคลุมไปถึงการฉีดกระตุ้นภูมิคุ้มกันในอนาคต หากมีการตัดสินใจเชิงนโยบายดังกล่าวเพิ่มเติม
อ้างอิงจาก
#Brief #TheMATTER