นิวซีแลนด์พบเคสผู้เสียชีวิตที่อาจเชื่อมโยงกับการฉีดวัคซีน Pfizer รายแรกของประเทศ โดยคาดว่าหญิงคนดังกล่าวเสียชีวิตจากโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย ซึ่งเป็นที่ทราบดีว่าเป็นผลข้างเคียงที่หายากจากการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบหาความเชื่อมโยงที่แน่ชัด
กระทรวงสาธารณสุขนิวซีแลนด์เปิดเผยข้อมูลดังกล่าว หลังคณะกรรมการอิสระที่ทำหน้าที่ตรวจสอบความปลอดภัยวัคซีน COVID-19 รายงานว่าหญิงคนหนึ่งเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีน โดยคณะกรรมการอิสระแถลงว่า หญิงคนนี้เสียชีวิตจากโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย (Myocardial infarction) ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่หายากจากการฉีดวัคซีนไฟเซอร์
แต่คณะกรรมการอิสระยังมองว่า “ประโยชน์ของการฉีดวัคซีนด้วยวัคซีนไฟเซอร์ ยังคงมีมากกว่าความเสี่ยงของการติดเชื้อ COVID-19 และการเกิดผลข้างเคียงของวัคซีน รวมถึงกล้ามเนื้อหัวใจตายด้วย”
ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขนิวซีแลนด์ระบุว่า นี่เป็นเคสแรกในประเทศนิวซีแลนด์ที่พบการเสียชีวิตหลังจากฉีดวัคซีนไฟเซอร์ โดยหลังเกิดประเด็นดังกล่าว ได้มีการส่งต่อเรื่องไปยังเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ ยังไม่ได้ระบุสาเหตุการณ์เสียชีวิตที่แน่ชัดแต่อย่างใด
หลังจากมีกระแสข่าวหลุดออกไป ทำให้ประชาชนชาวนิวซีแลนด์หลายคนเริ่มกังวลเกี่ยวกับการเข้ารับวัคซีน เนื่องจากไฟเซอร์เป็นวัคซีนตัวเดียวที่อนุญาตให้ฉีด แม้ว่าตอนนี้นิวซีแลนด์จะอนุมัติใช้วัคซีนในกรณีฉุกเฉิน 3 ตัวได้แก่ ไฟเซอร์ จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และแอสตร้าเซนเนก้า
ประกอบกับสถานการณ์ระบาด COVID-19 ในนิวซีแลนด์เริ่มรุนแรงมากขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม นิวซีแลนด์เพิ่งพบผู้ติดเชื้อใหม่ 83 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดมา ขณะที่ตอนนี้มีชาวนิวซีแลนด์เพียง 26.8% ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ซึ่งยังห่างไกลจากตัวเลขที่จะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันอยู่มาก ข่าวนี้จึงทำให้หลายฝ่ายออกมาแสดงความกังวลว่า ประชาชนอาจจะหวาดกลัว และทำให้โครงการฉีดวัคซีนล่าช้าลงไปอีก
อ้างอิงจาก
https://ourworldindata.org/covid-vaccinations…
https://www.bbc.com/news/world-asia-58380867
https://www.straitstimes.com/…/new-zealand-reports…