”อำนาจที่จะงดงาม และยืนยง ไม่ได้อยู่บนหัวประชาชน แต่ต้องอยู่ในหัวใจต่อประชาชน การเข้าไปอยู่ในใจประชาชน ไม่ได้เข้าด้วยการใช้ปลายกระบอกปืน ต้องเข้าไปด้วยความรัก ความปรารถนาดีต่อประชาชน” – ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
วันนี้ (2 ก.ย. 64) ณ แยกอโศกมนตรี สมบัติ บุญงามอนงค์ และ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้นัดชุมนุม ‘กินข้าวเย็นไล่เผด็จการ’ และมีการปราศรัยจากหลากหลายคน ไม่ว่าจะเป็น เป๋า – ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ จาก iLAW, ครูใหญ่ – อรรถพล บัวพัฒน์, ปูน – ธนพัฒน์ กาเป็ง จากกลุ่มทะลุฟ้า, ลูกนัท – ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย ตั้งแต่เวลา 16.00 น. พร้อมกิจกรรมติดแฮชแท็ก #ไล่ประยุทธ์ และการส่งจดหมายถึงนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ถูกศาลตัดสินไม่ให้ประกันตัว
โดยหนึ่งในผู้ปราศรัยสำคัญวันนี้คือ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ได้กล่าวถวึงถึงการบริหารงานที่ผิดพลาดภายใต้รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชาว่า “ในยุคประยุทธ์ โควิดไม่มีทางหาย เพราะผิดพลาดมาแต่ต้น การหยิบจับในการแก้ปัญหาพังหมด ทั้งวัคซีน ทั้ง atk นี่คือสภาพนายกฯ ที่บอกจะพาประเทศพ้นวิกฤต ถ้าคุณรอดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ผมจะชวนประชาชนชวนไล่ประยุทธ์ทุกเมื่อเชื่อวัน”
นอกจากนี้เขายังได้พูดถึงการออกมาชุมนุมประท้วงของคนรุ่นใหม่ว่า “พูดถึงการต่อสู้ของคนหนุ่มสาว ที่ถูกกระทำอย่างเจ็บปวด ผมเป็นพ่อคน ลูกผมอายุ 13 ปี ผมเจอแม่คน แม่ของเพนกวินที่อายุ 20 กว่า การต่อสู้เกือบ 2 ปี ถูกกระทำ ถูกว่าร้าย ถูกคุมขัง ถูกอธิบายความหมายให้เป็นพลังอันตราย”
“แต่ผมขอยืนยันว่า นี่คือพลังบริสุทธิ์ที่ประเทศต้องการ ต้องรักษาไว้ เด็กๆ ไม่ได้ทำอะไรนอกจากบอกว่า จะไม่ยอมให้มีอะไรกดหัวเขาอีกต่อไป ถ้าเด็กทำอะไรพลาด ก็ต้องตักเตือน แต่ไม่ใช่เอาเขาไปขังไว้ เด็กๆ ยังติดโควิด ไม่ยอมให้ไปรักษาที่อื่น ขณะที่ ผกก.โจ้ย้าย 2-3 เรือนจำ แล้วน้องๆ ผมผิดอะไร ถึงไม่ได้ถูกย้ายเพื่อได้รับการรักษา”
“ทนายอานนท์ปีๆ นึงเป็นจำเลย มากกว่าทนาย ผมเห็นโพสต์อานนท์คิดถึงลูกสาว หัวใจพ่อที่มีลูก ผมเข้าใจ เอาพวกนี้ไปขังมีแต่ความเจ็บปวดของประเทศ”
โดยเขาได้เน้นย้ำถึงการใช้อำนาจบริหารที่ผิดพลาดของรัฐบาล และการพยายามปิดกั้นเสียงของคนรุ่นใหม่ว่า
“ผู้มีอำนาจทั้งหลายกำลังตีโจทย์ผิด ตั้งตัวเป็นศัตรูกับหนุ่มสาวที่เป็นอนาคตประเทศ คนส่วนใหญ่ที่เติบโตมา เขาคิดไปแบบเดียวกัน ถ้าจัดการเพนกวินวันนี้ เดี๋ยวก็มีนกสารพัดชนิดบินออกมาสู้ ท่านหักต้นไผ่ เดี๋ยวก็มีต้นอื่นๆ ออกมาสู้อยู่ดี ในบ้านเมืองแต่ละบ้านเมือง อำนาจทำได้แต่ลบอดีต แต่ไม่สามารถลบอนาคตได้ และอดีตที่ใช้อำนาจลบ ถ้าอำนาจเจือจางหาย ความจริงมันก็จะปรากฏออกมา”
“อำนาจต้องไม่ถูกโค่นทำลาย แต่อยู่เป็นที่ทางในระเบียบ อำนาจที่จะงดงาม และยืนยง ไม่ได้อยู่บนหัวประชาชน แต่ต้องอยู่ในหัวใจต่อประชาชน อำนาจที่อบอุ่น และปลอดภัย ไม่ได้อยู่ในค่ายทหาร ไม่ได้อยู่ในองคาพยพกองทัพ หรือการปกป้องของเผด็จการ แต่ที่ที่ปลอดภัยมีแต่ในหัวใจประชาชน การเข้าไปอยู่ในใจประชาชน ไม่ได้เข้าด้วยการใช้ปลายกระบอกปืน ต้องเข้าไปด้วยความรัก ความปรารถนาดีต่อประชาชน ด้วยความจริงใจต่อประชาชน”
ซึ่งณัฐวุฒิได้กล่าวทิ้งท้ายว่าหากประยุทธ์ จันทร์โอชา ผ่านการลงมติไม่ไว้วางใจ ก็จะยืนยันออกมาไล่ประยุทธ์ทุกวัน จนกว่าจะลาออก ก่อนจะประกาศยุติการชุมนุม เมื่อเวลา 20.09 น.
#quote #ม็อบ2กันยา #TheMATTER