หลังจากหยุดพักการประท้วงออฟไลน์ไปในช่วงการระบาดของไวรัส COVID-19 เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา กิจกรรม Friday For Future หรือนัดหยุดเพื่อลงถนนเรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนอย่างจริงจังได้กลับมาอีกครั้ง โดยมีรายงานว่ามีผู้คนใน 99 ประเทศทั่วโลกร่วมเดินขบวนดังกล่าว
ด้วยปัญหาการระบาดของไวรัส COVID-19 กลุ่ม Friday For Future ได้ยุติการรวมตัวบนถนน และจัดให้มีการชุมนุมแบบออฟไลน์ไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ล่าสุดการประท้วงได้กลับมาเป็นครั้งแรกในโลกออฟไลน์ โดยมีการรายงานว่า มีการประท้วงเกิดขึ้นใน 1,800 เมืองทั่วโลก โดยเฉพาะในทวีปยุโรป, แอฟริกา, อเมริกาเหนือ และอเมริกาใต้
Greta Thunberg เยาวชนนักเคลื่อนไหวที่ริเริ่มการชุมนุมดังกล่าว ได้เข้าร่วมเดินขบวนในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ซึ่งในอีก 2 วันข้างหน้ากำลังจะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศ ช่วงหนึ่งเธอได้ขึ้นกล่าวปราศรัยต่อหน้าประชาชนนับแสนว่า “ถูกที่พวกเราต้องไปใช้สิทธิ พวกคุณต้องไป แต่โปรดจำไว้ว่าการไปใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ แต่เรายังต้องลงถนนอย่างต่อเนื่อง” โดยเธอชี้ว่าที่ผ่านมายังไม่มีพรรคการเมืองไหนที่ตั้งใจเพียงพอที่จะแก้ไขภาวะโลกร้อน
ในเม็กซิโก กลุ่มผู้ชุมนุมในเมืองเม็กซิโก ซิตี้เรียกร้องให้บริษัทน้ำมัน Pemax ที่มีรัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นออกแผนในการลดระดับการปล่อยคาร์บอน ในบังกลาเทศ กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องให้มีการออกแผนใหม่สำหรับโรงงานถ่านหินและแก๊สในประเทศ
ในแอฟริกาใต้ กลุ่มผู้ชุมนุมใน 12 เมืองทั่วประเทศได้จัดการประท้วงต่อเนื่อง 3 วันเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเลิกใช้พลังงานฟอสซิล นอกจากยี้ ยังมีการชุมนุมในสหราชอาณาจักร, แคนาดา, บราซิล และอาร์เจนตินาเช่นกัน
การชุมนุมครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนการประชุม Cop26 climate summit ในเมืองกลาสโกลว สหราชอาณาจักรเพียงไม่กี่อาทิตย์ ขณะที่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา IPCC ได้ประกาศว่า ทั่วโลกต้องลดการปล่อยคาร์บอนลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2030 ด้านจีนเพิ่งประกาศยกเลิกเงินสนับสนุนสำหรับโรงไฟฟ้าถ่านหินของจีนในต่างประเทศ ขณะที่สหรัฐฯ ประกาศเพิ่มเม็ดเงินสำหรับการต่อสู้กับภาวะโลกร้อนเช่นกัน
อ้างอิง:
https://www.theguardian.com/…/people-in-99-countries…
https://www.washingtonpost.com/…/fridays-future-greta…/
#Brief #TheMATTER #Globalwarming #ภาวะโลกร้อน