หลังจากพายุเตี้ยนหมู่พัดผ่านเข้าไทยในช่วงตั้งแต่วันที่ 23-26 กันยายนที่ผ่านมาทำให้เกิดฝนตกหนัก และน้ำท่วมใน 14 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย พิจิตร ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา อุบลราชธานี นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี และพระนครศรีอยุธยา
เบื้องต้นกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และตากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายบ้างแล้ว ยังเหลืออีก 10 จังหวัดที่ยังคงน่าเป็นห่วง และต้องเร่งให้ความช่วยเหลือกันต่อไป ซึ่งหนึ่งในจังหวัดที่เผชิญหน้าน้ำท่วมหนักที่สุดในตอนนี้คงหนีไม่พ้น ลพบุรี สุโขทัย และชัยภูมิ
สำหรับลพบุรี มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้อพยพประชาชนแล้วกว่า 100 ครัวเรือน หลังฝนตกลงมาอย่างหนักจนทำให้ปริมาณน้ำในอ่างกุดตาเพชรล้นออกมาท่วมถนน และในบางพื้นที่ยังเจอน้ำป่าไหลหลากในช่วงกลางดึกของเมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณน้ำขึ้นอย่างรวดเร็วและเข้าท่วมที่พักอาศัย ประชาชนบางส่วนต้องหนีขึ้นไปบนหลังคาเพื่อความปลอดภัยระหว่างรอความช่วยเหลือ ซึ่งเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือบ้างแล้ว
ขณะที่สุโขทัยก็เกิดเหตุน้ำท่วมหลังฝนตกลงมาอย่างหนัก ประกอบกับมวลน้ำจากอ่างเก็บน้ำแม่มอก อ.เถิน จ.ลำปาง และอ่างเก็บน้ำคลองแม่รำพัน อ.บ้านด่านลานหอยไหลทะลักออกมา ทำให้เกิดเหตุน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้างรวมถึงตัวเมืองของจังหวัด มีผู้ได้รับความเสียหายมากกว่า 100 ครัวเรือน บางพื้นที่น้ำสูงกว่า 1.5 เมตร ทำให้ไม่สามารถสัญจรด้วยรถได้ เจ้าหน้าที่จึงต้องนำเรือมาช่วยอพยพผู้ประสบภัยไปยังที่ปลอดภัย ซึ่งในวันนี้ นายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ได้ลงพื้นที่ไปให้กำลังใจและร่วมแก้ปัญหาน้ำท่วมด้วย
ชัยภูมิเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุเตี้ยนหมู่อย่างหนัก จนเกิดเหตุน้ำท่วมหนักสุดในรอบ 50 ปี หลังฝนตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่อง 2-3 วัน จนเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก และมวลน้ำทะลักล้นสันเขื่อนลำคันฉูเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ และท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 1,000 หลัง รวมถึงท่วมโรงพยาบาลบำเหน็จณรงค์ เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเข้าไปช่วยเหลือผู้ป่วยเพื่อย้ายไปยังศูนย์อพยพ เบื้องต้นมีรายงานว่า บางจุดยังมีน้ำท่วมสูงถึง 5 เมตร และมีแนวโน้มว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งนี้ ตามรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยาเมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมาระบุว่า ในช่วงวันที่ 25-26 กันยายนนี้ หย่อมความกดอากาศต่ำที่ลดระดับความรุนแรงจากพายุดีเปรสชันเตี้ยนหมู่ จะเคลื่อนตัวสู่แนวร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ซึ่งจะยังทำให้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่อง และอาจตกหนักมากกว่าที่ผ่านมา ขอให้ประชาชนในหลายพื้นที่เฝ้าระวัง และเตรียมรับมือหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน
อ้างอิงจาก
https://tna.mcot.net/region-788222
https://www.komchadluek.net/news/485412
https://mgronline.com/local/detail/9640000095220
https://www.matichon.co.th/region/news_2958913
https://www.pptvhd36.com/…/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0…/157159
#Brief #TheMATTER