หลายปีที่ผ่านมา และโดยเฉพาะยุคโรคระบาด ปฏิเสธไม่ได้ว่าการซื้อของออนไลน์กลายเป็นเรื่องปกติสำหรับคนไทยไปเสียแล้ว แถมอัตราการเติบโตของตลาดอี-คอมเมิร์ซไทยยังก้าวกระโดดอย่างมีนัยสำคัญด้วย
หลังจากปล่อยให้ผู้เล่นต่างชาติรายใหญ่เข้ามาเป็นแย่งส่วนแบ่งค้าปลีกไทยอยู่นานสองนาน ยักษ์ค้าปลีกไทยอย่าง CPN หรือเครือเซ็นทรัลพัฒนาก็ขยับก้าวใหญ่ โดยการทุ่มงบ 1 พันล้านบาทเพื่อสร้างแพลตฟอร์ม ‘The 1 Biz’ ใจความสำคัญคือการดึงเหล่าคู่ค้าที่มีอยู่แล้วในห้างสรรพสินค้ามารวมตัวกันบนแพลตฟอร์ม สนับสนุนการตลาด และการขยายสาขาที่เปิดตัวใหม่นี้ โดยจะเปิดการแชร์ฐานข้อมูลสมาชิก The 1 ระบบสะสมสมาชิกแลกแต้มของเครือเซ็นทรัลระหว่างกันด้วย
จุดสำคัญคือการที่เมื่อคู่ค้าเชื่อมระบบเข้าแพลตฟอร์ม The 1 Biz แล้ว คู่ค้าจะสามารถเข้ามาใช้ระบบสะสม-แลกแต้ม และเข้าถึงฐานข้อมูลสมาชิก The 1 รวมไปถึงช่องทางสื่อสาร-จำหน่ายต่างๆ ที่ CPN มีอยู่ (เดิมใช้ได้เฉพาะร้านค้าในเครือ CPN เท่านั้น) โดยในฐานข้อมูล big data ลูกค้ากว่า 18 ล้านคน มีกลุ่มที่ใช้งานประจำถึง 8.4 ล้านคน ซึ่งเป็นดาต้าสำคัญที่จะต่อยอด ใช้สร้างแคมเปญการตลาดแบบ tailor made ส่งไปยังลูกค้าผ่าน omni-channel ทั้ง LINE, SMS, e-mail, และ Facebook
นอกจากนี้ ร้านคู่ค้าที่เข้ามาเป็นพาร์ตเนอร์กับ The 1 Biz จะสามารถให้ลูกค้าสะสมและแลกแต้ม The 1 ได้ด้วย ซึ่งทาง CPN ระบุว่า วิธีนี้ทำให้แบรนด์เล็กๆ ไม่จำเป็นต้องวางระบบฐานสมาชิกเดิมด้วยตัวเอง สามารถเข้ามาปลั๊กอินใช้งานร่วมกันได้เลย
ทั้งนี้ ในงบประมาณ 1 พันล้านบาทที่จะลงทุนกับระบบใหม่นี้ จะใช้สำหรับเชื่อมต่อระบบกับคู่ค้าที่เข้าร่วมแพลตฟอร์ม และใช้ทำแคมเปญการตลาดเพื่อกระตุ้นการซื้อ ทาง CPN เชื่อว่าระบบดังกล่าวจะช่วยให้ร้านค้าปลีกที่เข้าร่วมรับมือและแข่งขันกับเหล่าแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซได้ในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า
ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่รายเล็กเข้าร่วม The 1 BIZ กว่า 240 แบรนด์ รวมกว่า 1,000 ร้านค้า จากปัจจุบันมีแบรนด์ที่ร่วมแล้วกว่า 30 แบรนด์
ตอนนี้ CPN มีคู่ค้าในศูนย์กว่า 15,000 ราย ใน 33 ศูนย์ทั่วประเทศ โดยแผนธุรกิจในอนาคตคือการเดินหน้าลงทุนโครงการ mix use โดยเฉพาะโครงการที่พักอาศัยที่ติดหรือใกล้กับศูนย์การค้า โดยเป็นโมเดลที่เน้นรุกตลาดต่างจังหวัด ซึ่งจะมีเปิดใหม่ที่ศรีราชาและพระนครศรีอยุธยาที่ไตรมาส 4 และขยายไปจังหวัดอื่นๆ หลังจากนั้น
รวมถึงศูนย์การค้าที่เป็นคอมมูนิตี้การรวมตัวของคนที่ชอบอะไรเหมือนกัน อย่าง คนรักสัตว์ ที่เซ็นทรัลอีสต์วิล ก็ช่วยดึงดูดลูกค้าได้เพิ่มขึ้น
ถือเป็นการขยับก้าวใหญ่ของยักษ์ค้าปลีกไทย หลังจากที่ปล่อยให้เหล่าแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซโลดแล่นอยู่นานหลายปีด้วยการอัดคูปองพิเศษ หรือดีลส่งฟรี จนค้าปลีกดั้งเดิมต้องปรับตัวขนานใหญ่
ตลาดอี-คอมเมิร์ซถือเป็นตลาดที่น่าจับตา เพราะมีอัตราการเติบโตที่รวดเร็วมาก โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า มูลค่าตลาด B2C (Business to Consumer) E-commercer พ.ศ.2564 น่าจะขยายตัว 30% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งจะเป็นมูลค่าราว 300,000 ล้านบาท ปัจจัยหลักที่เร่งการเติบโต มาจากการระบาดของ COVID-19 ที่เปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภค ให้การช้อปฯ ออนไลน์ กลายเป็นชีวิตประจำวันมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์วิจัยฯ บอกด้วยว่า อัตราการเติบโตที่สูงเช่นนี้หมายถึงการแข่งขันที่ดุเดือดด้วย ซึ่งตลาดยิ่งขยาย ก็จะยิ่งทำให้แข่งขันได้ยากขึ้น
อ้างอิงข้อมูลจาก
www.tnnthailand.com