ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ มนุษยชาติกำลังเผชิญหน้ากับภัยพิบัติ ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั่วทุกมุมโลก ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า รัฐบาลของประเทศต่างๆ ไม่จริงจังต่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าว อย่างไรก็ดี มีองค์กรแห่งหนึ่งตั้งเป้าว่า พวกเขาจะปลูกต้นไม้จำนวน 1 ล้านล้านต้น เพราะมันสามารถช่วยโลกของเราเอาไว้ได้
ปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้โลกของเราในทุกวันนี้ เผชิญหน้าอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ คงหนีไม่พ้นการปล่อยก๊าสเรือนกระจกขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ หลายรัฐตั้งเป้าว่าพวกเขาจะลดการปล่อยก๊าสเรือนกระจกลงให้ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีต่อโลกของเราแน่นอน แล้วถ้าไม่เพียงหวังรอแต่รัฐบาลต่างๆ ที่ถูกวิจารณ์ว่าพวกเขาไม่สามารถทำตามเป้าหมายการพิทักษ์โลกของเราเอาไว้ได้ล่ะ เราพอจะมีทางอื่นหรือไม่
ครั้นภาคประชาชนกับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร จะลงไปจัดการเรื่องนโยบายของรัฐเองคงลำบาก แต่มีองค์กรแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ อย่าง 1t.org ภายใต้การนำของ American Forests พยายามหาหนทางที่จะช่วยโลกของเราเอาไว้ได้ ซึ่งเป็นวิธีการที่ทุกคนสามารถทำได้ คือ การปลูกต้นไม้
แต่การปลูกต้นไม้เพียงไม่กี่ต้น คงช่วยโลกของเราเอาไว้ไม่ได้มาก พวกเขาจึงวางโครงการ ที่จะปลูกต้นไม้จำนวน 1 ล้านล้านต้น ภายในปี 2030 เพราะพวกเขาเชื่อว่า มันจะช่วยดูดซับก๊าสเรือนกระจก ก่อนมันจะลอยขึ้นไปสู่ชั้นบรรยากาศได้จำนวนมหาศาล
ต้นไม้ทำหน้าที่เหมือนกับเป็นเครื่องกรองอากาศของโลก และมันยังเป็นเครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพที่สุด ในการจัดการกับมลภาวะของคาร์บอนที่ปล่อยไปสู่ชั้นบรรยากาศ มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชี้ว่า พื้นที่ป่าเพียงเฉพาะในสหรัฐฯ สามารถกักเก็บก๊าสเรือนกระจกที่ถูกปล่อยจากสหรัฐฯ ราว 15 เปอร์เซ็นต์ต่อปี หรือเทียบเท่ากับก๊าสเรือนกระจกที่ถูกปล่อยออกมาจากรถจำนวน 163 ล้านคัน
สถิติที่น่าตกใจก็คือ ในทุกๆ 6 วินาที โลกของเราจะเสียพื้นที่ป่าไปประมาณ 1 สนามฟุตบอลเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่ในตอนนี้ โลกของเราจำเป็นจะต้องมีต้นไม้มากที่สุด อย่างไรก็ดี จากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชี้ว่า หากพวกเขาทำตามเป้าได้สำเร็จ คือ การปลูกต้นไม้ 1 ล้านล้านต้น ภายในปี 2030 มันจะช่วยลดลดคาร์บอนลงได้ 200 จิกะตัน (200 ล้านล้านกิโลกรัม) ตลอด 1 ช่วงชีวิตของพวกมัน หรือเทียบเท่าก๊าสเรือนกระจกจากรถจำนวน 43 พันล้านคัน
1t.org ประกาศเริ่มโครงการปลูกต้นไม้ 1 ล้านล้านต้นเมื่อปีก่อน ท่ามกลางคำถามและความสงสัยว่า สิ่งที่พวกเขาคิดจะช่วยโลกได้จริงหรือไม่ เพราะมันดูเป็นแนวคิดที่เกินจริง อย่างไรก็ดี ทั้งสหราชอาณาจักร แคนาดา สหรัฐฯ สหภาพยุโรป จีน อินเดีย ปากีสถาน และโคลอมเบีย ตัดสินใจเข้าร่วมการปลูกต้นไม้นับพันล้านต้น 1t.org ยังอาศัยความร่วมมือในการปลูกป่าของชุมชนคนพื้นเมืองในแอมะซอนและซาเฮล เพื่อพิทักษ์ผืนป่า โครงการดังกล่าวทำให้พื้นที่ป่าดิบชื้นใหญ่อันดับสองของโลก อย่างอุทยานแห่งชาติซาลองกาในคองโก หลุดออกจากรายชื่อป่าที่เสี่ยงต่อการล่มสลาย
1t.org กำลังหาพันธมิตรเพิ่มเติม เพื่อทำการปลูกป่าในทั่วโลก ไม่ว่าจะหน่วยงานรัฐ ไปจนถึงธุรกิจน้อยใหญ่ พวกเขาเรียกร้องการทำธุรกิจใหม่ๆ นับแต่นี้ว่า ควรตั้งอยู่บนฐานคิดธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม ถึงแม้ว่าการปลูกป่าด้วยต้นไม้ 1 ล้านล้านต้นจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ 1t.org เชื่อว่า ถ้าหากอาศัยความร่วมมือของทุกฝ่าย จนเกิดการปลูกต้นไม่อย่างถาโถมมากพอ เมื่อนั้นโลกของเราจะเริ่มสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศได้เป็นอย่างดี และมันจะกลายเป็นการร่วมอนุรักษ์ครั้งใหญ่ของมวลมนุษยชาติ
อ้างอิงจาก
#Brief #TheMATTER