รูปจำลองของ โทมัส เจฟเฟอร์สัน อดีตประธานาธิบดีคนที่ 3 ของสหรัฐฯ หนึ่งในบิดาผู้ก่อตั้งประเทศ และผู้ร่างคำประกาศอิสรภาพของอดีต 13 รัฐอาณานิคม กำลังจะถูกย้ายออกจากห้องประชุมของศาลากลางเมืองนิวยอร์ก เนื่องจากประวัติของอดีตประธานาธิบดีเจฟเฟอร์สันชี้ให้เห็นว่า เขาเคยถือครองทาสมาก่อน
ที่ประชุมมีมติลงคะแนนเสียงแบบเอกฉันท์ ให้นำรูปจำลองของเจอเฟอร์สันขนาด 7 ฟุต ซึ่งถูกตั้งอยู่ในห้องประชุมของศาลากลางเมืองนิวยอร์กมาตลอด 100 ปี ย้ายออกไป ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นหนึ่งในบิดาผู้ก่อตั้งสหรัฐฯ เพราะมีหลักฐานชี้ว่า เจฟเฟอร์สันเคยเป็นนายทาสคนผิวสี ที่ถูกใช้งานในบ้านของเขาเมื่อเกือบ 200 ปีก่อน
สมาชิกสภาของเมืองนิวยอร์ก ที่เป็นชาวผิวสี ลาติน และเอเชีย พยายามหยิบยกประเด็นการถือครองทาสของอดีตประธานาธิบดีเจฟเฟอร์สัน ขึ้นมาถกเถียงตลอด 2 ทศวรรษที่ผ่านมา และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ รูปจำลองของอดีตผู้นำ และบุคคลผู้มีชื่อเสียงต่างๆ ที่ถูกตั้งอยู่ทั่วประเทศ กำลังถูกตั้งคำถามอย่างหนัก ถึงการตอกย้ำในเรื่องการเหยียดเชื้อชาติเชิงโครงสร้าง ซึ่งยังคงฝังรากลึกอยู่ในสังคมสหรัฐฯ
ถึงแม้ว่าเจฟเฟอร์สันจะเป็นผู้ร่างคำประกาศอิสรภาพของสหรัฐฯ เมื่อ 200 กว่าปีก่อน เพื่อนำเสรีภาพมาสู่ชาวสหรัฐฯ ในโลกใหม่ ที่พยายามสลัดอำนาจจากยุโรป โดยเฉพาะสหราชอาณาจักร ออกจากดินแดนของพวกเขา แต่มีหลักฐานชี้ให้เห็นว่า เจฟเฟอร์สันกลับครอบครองทาสผิวสีกว่า 600 คน และเขายังมีลูกกับทาสหญิงคนหนึ่งอย่าง ซัลลี เฮมิงส์ กว่า 6 คน
ด้วยเหตุผลข้างต้น สมาชิกสภาเมืองนิวยอร์กจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนกลุ่มน้อยในสังคมสหรัฐฯ จึงพยายามเสนอว่า สิ่งที่เจฟเฟอร์สันทำ ถือว่าเป็น “การย้ำเตือนถึงความอยุติธรรม ที่แพร่กระจายอยู่ในชุมชนคนผิวสีต่างๆ มาตั้งแต่การเกิดขึ้นของประเทศของพวกเรา” อย่างไรก็ดี มีผู้เห็นค้านต่อมติดังกล่าว โดยมีพวกเขาพยายามเสนอว่า รูปจำลองของเจฟเฟอร์สันควรถูกย้ายห้อง ไปตั้งเอาไว้ในห้องของนายกเทศมนตรีนิวยอร์กก็พอ
รูปจำลองของเจฟเฟอร์สันในวอชิงตัน ถูกสร้างขึ้นโดยศิลปินชาวฝรั่งเศส เพื่อมอบให้แก่ประชาชนชาวสหรัฐฯ ก่อนที่มันจะถูกจำลองอีกที และนำมาตั้งเอาไว้ในศาลากลางของเมืองนิวยอร์กเมื่อปี 1834 และถูกย้ายเข้ามาวางในห้องประชุมเมืองราวทศวรรษที่ 1910 อย่างไรก็ดี แอนเน็ตต์ กอร์ดอน-รีด อาจารย์จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์ของเจฟเฟอร์สันระบุว่า การย้ายรูปจำลองในครั้งนี้ ถือว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด หลังจากประเด็นดังกล่าวถูกถกเถียงกันมาอย่างยาวนาน
ประเด็นการย้ายหรือทำลายรูปจำลองของบุคคลสำคัญในอดีต ที่มีส่วนเกี่ยวเนื่องกับการค้าทาส หรือการล่าอาณานิคมในสหรัฐฯ ยังคงเป็นประเด็นที่ซับซ้อน และยังคงถูกถกเถียงกันมาถึงปัจจุบันนี้ อย่างไรก็ดี การที่ประเด็นดังกล่าวถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงเรื่อยๆ เป็นส่วนหนึ่งและอาจเป็นส่วนสำคัญ ของการปะทะกันระหว่างประวัติศาตร์ในอดีต กับการค้นหาอัตลักษณ์ร่วมกันของสังคมสหรัฐฯ ในยุคปัจจุบัน
อ้างอิงจาก
https://www.nytimes.com/1998/11/01/us/dna-test-finds-evidence-of-jefferson-child-by-slave.html
#Brief #TheMATTER