สำหรับหลายคน ‘มีมตลก’ อาจเป็นความสุขอันยิ่งใหญ่ในช่วงต้องกักตัวอยู่บ้าน งานวิจัยสหรัฐฯ เผย การดูมีมตลกๆ ที่เล่นมุกเกี่ยวกับ COVID-19 ช่วยบรรเทาความเครียดและความกังวลให้กับผู้คนในช่วงโรคระบาดได้
Jessica Gall Myrick ศาสตราจารย์ด้านการสื่อสารที่มหาวิทยาลัยแห่งรัฐเพนซิลวาเนียและนักวิจัยอีก 2 คนได้สำรวจผู้คนกว่า 700 คนเพื่อศึกษาความเชื่อมโยงว่า การดูมีมตลกเกี่ยวกับโรคระบาดช่วยลดความเครียดให้ผู้คนได้จริงหรือไม่ ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่ระบุว่า การดูมีมน่ารักๆ ช่วยให้พวกเขาเครียดน้อยลง และรู้สึกมั่นใจมากขึ้นเมื่อต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตโรคระบาด
ทีมวิจัยสำรวจอาสาสมัครจำนวน 748 คน ซึ่งมีอายุระหว่าง 18-88 ปี โดยทีมวิจัยได้โชว์รูปมีมหลายประเภทที่มีรูปภาพและคำบรรยายแตกต่างกัน ก่อนจะขอให้อาสาสมัครช่วยให้คะแนนความน่ารัก อารมณ์ขัน รวมถึงการตอบสนองทางอารมณ์ของมีมแต่ละรูปภาพ
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ที่ดูมีมเกี่ยวกับ COVID-19 จะรู้สึกผ่อนคลายมากกว่าการดูมีมที่ไม่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้พวกเขายังรู้สึกว่าตัวเองรับมือและประมวลผลข้อมูลเกี่ยวกับโรคระบาดได้ดีขึ้น นักวิจัยจึงสรุปว่า ผู้ที่ดูมีม COVID-19 มีแนวโน้มจะเครียดน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้เสพมีมประเภทนี้เลย
Jessica กล่าวว่า ผู้คนใช้มีมในการพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในช่วงที่ COVID-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงล็อกดาวน์ที่คนต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว การได้เห็นมีมที่เกี่ยวกับ COVID-19 มันทรงพลังมาก เพราะช่วยเราให้เราปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ มากขึ้น
ขณะที่ Rebecca Ortiz ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยซีราคิวส์ ซึ่งไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานวิจัย มองว่า เมื่อเราเผชิญหน้ากับสถานการณ์แย่ๆ เรามักจะรู้สึกโดดเดี่ยวและคิดว่ามีเพียงแค่เราที่ต้องเจอเรื่องแบบนี้ ขณะที่มีมเหล่านั้นสร้างขึ้นมาจากการอ้างอิงวัฒนธรรมและสังคมที่อยู่ร่วมกัน และแบ่งปันกันในโลกอินเทอร์เน็ต นี่จึงไม่ใช่แค่การแบ่งปันข้อความทั่วๆ ไป แต่มันทำให้หลายคนรู้ว่าพวกเขาไม่ได้โดดเดี่ยว และรู้สึกเหมือนเผชิญหน้ากับปัญหานี้อยู่คนเดียว
ทั้งนี้ การศึกษาดังกล่าวจำเป็นต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมว่ามีมเชื่อมโยงกับการชุบชูจิตใจได้ในระดับไหน แต่ข้อมูลนี้ทำให้พวกเรารู้ว่าการใช้โซเชียลมีเดียในเชิงบวกสร้างประโยชน์เชิงอารมณ์ได้จริง
ทั้งนี้ แม้การดูมีมตลกจะมีประโยชน์ แต่ Jessica ยืนยันว่า การดูมีมนั้นไม่สามารถทดแทนจากขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตได้ ดังนั้น หากรู้สึกว่ากำลังเผชิญความเครียดในระดับที่ไม่สามารถรับมือได้ ควรไปพบผู้เชี่ยวชาญแทนการพยายามบำบัดด้วยตัวเอง
อ้างอิงจาก
#Brief #TheMATTER