ความมั่นคงของชาติคือการจำกัดเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน? สภานิติบัญญัติฮ่องกงผ่านกฎหมายเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ที่ ‘สนับสนุน หรือปลุกปั่นกิจกรรมที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงชาติ’ โดยผู้ที่ฝ่าฝืนจะต้องโทษจำคุก และโดนปรับกว่า 1.2 แสนดอลลาร์
การที่รัฐสภาจีนผ่านกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติสำหรับใช้ในฮ่องกงเมื่อช่วงกลางปี 2563 ที่ผ่านมา ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้สังคมฮ่องกงอย่างมาก ทั้งเรื่องเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรการศึกษาบางอย่างเพื่อให้เป็นมิตรกับจีนแผ่นดินใหญ่มากขึ้น
ล่าสุด สภานิติบัญญัติของฮ่องกงยังผ่านกฎหมายเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ฉบับใหม่ ซึ่งจะมีการแบนเนื้อหาที่ ‘ผลักดัน สนับสนุน เชิดชู ส่งเสริม และปลุกปั่นกิจกรรมที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ’ โดยกฎหมายใหม่นี้จะมอบอำนาจให้หัวหน้าเลขาธิการฮ่องกงสามารถเพิกถอนใบอนุญาตฉายภาพยนตร์ได้ หากพบว่ามีเนื้อหาขัดต่อผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของชาติ
นอกจากนี้ยังมีการกำหนดบทลงโทษผู้ละเมิดกฎหมาย ให้จำคุกสูงสุด 3 ปี และปรับสูงสุดไม่เกิน 128,400 ดอลลาร์ หรือราวๆ 4.2 ล้านบาท โดยเอ็ดเวิร์ด เยา รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์บอกว่า “กฎหมายนี้มีเป้าหมายชัดเจน คือการปรับปรุงแนวทางการเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำใดๆ ก็ตามที่อาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคงชาติ”
หลังจากมีการผ่านกฎหมายนี้ นักวิจารณ์หลายคนได้ออกมาแสดงความกังวลว่า ระเบียบใหม่นี้จะสร้างผลกระทบอย่างมหาศาลในวงการภาพยนตร์ของฮ่องกง “การนำเอากฎหมายความมั่นคงแห่งชาติมาใช้กับวงการภาพยนต์ เป็นความพยายามเซ็นเซอร์เนื้อหาทางการเมืองที่ชัดเจน” เคนนี อึ้ง รองศาสตราจารย์ของ Academy of Film จากมหาวิทยาลัย Hong Kong Baptist กล่าวพร้อมเสริมว่า “มันหนักหนามาก และวงการภาพยนตร์ต้องใช้เวลาปรับตัว”
นับตั้งแต่รัฐสภาจีนผ่านกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ วงการละครและภาพยนตร์ ไปจนถึงสิ่งพิมพ์ต่างๆ ของฮ่องกงถูกจำกัดการแสดงออกมากขึ้น โดยเฉพาะประเด็นการเมือง นอกจากนี้ ปีนี้ยังเป็นปีแรกในรอบ 52 ปีที่ฮ่องกงงดถ่ายทอดงานประกาศรางวัลออสก้า โดยคาดว่ามีสาเหตุจากสารคดีหนังสั้นเรื่อง ‘Do Not Split’ ซึ่งฉายเรื่องราวการประท้วงเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/world-asia-china-59047633