หลังจากที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ว่า ไทยจะเข้าร่วมการรายงานทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของไทยตามกลไก Universal Periodic Review (UPR) รอบที่ 3 ในวันนี้ (10 พฤศจิกายน) ล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศของไทยได้ขึ้นให้คำมั่นต่อสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของไทยแล้ว
การรายงานในครั้งนี้ เป็นการรายงานจากกระทรวงการต่างประเทศของไทย ต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ โดยทางการไทยยืนยันว่า รัฐบาลไทยพยายามที่จะปกป้องสิทธิของประชาชนทุกคน และปฏิบัติให้มีการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมถึงการให้ความช่วยเหลือเป็นตัวเงิน ต่อกลุ่มผู้้เปราะบางในสังคมไทย โดยเฉพาะในสถานการณ์ COVID-19
ทางการไทยยืนยันที่จะรักษาระบบประกันสุขภาพ (บัตรทอง) ต่อไป เนื่องจากสามารถช่วยเหลือผู้เปราะบางทางสุขภาพของผู้ป่วยในไทย รวมถึงการจัดการปัญหา COVID-19 เพื่อทำให้ระบบสาธารณสุขของประเทศเข้มแข็ง อีกทั้งยังส่งเสริมให้เกิดความเท่าเทียมแก่ผู้พิการ ที่จะสามารถดำรงชีวิตในสังคมได้
นอกจากนี้ ไทยยังมีความพยายามในการแก้ไข พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก เพื่อช่วยเหลือเด็กในประเทศ อีกทั้งยังมีการให้ความช่วยเหลือเด็กยากจน เพื่อให้เด็กสามารถเข้าถึงระบบการศึกษาที่มากขึ้น และมีการทำให้เด็กสามารถเข้าถึงระบบออนไลน์ และการเรียนออนไลน์ด้วย
ไทยยังได้ระบุต่อสหประชาชาติว่า ทางการมีการส่งเสริมประเด็นเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ ทั้งชายและหญิง ไปจนถึงเยาวชน อีกทั้งยังมีความพยายามในการออกกฎหมายการจดทะเบียนคู่ชีวิตของคู่รักเพศเดียวกัน ไปจนถึงการคุ้มครองคนทุกชาติพันธุ์ และแรงงานต่างชาติ อีกทั้งให้ความช่วยเหลือผู้ไร้สัญชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย
ตัวแทนชองไทยย้ำกับสหประชาชาติว่า ไทยให้ความสำคัญต่อสิทธิในการแสดงออกในทางการเมือง และสิทธิในการชุมนุมของประชาชน ถึงแม้ว่าจะมีประเด็นที่ท้าทาย แต่ทางการเห็นว่า เสรีภาพต้องถูกใช้อย่างเหมาะสม สร้างสรรค์ และคำนึงถึงบริบทของสถานการณ์ COVID-19
ไทยยืนยันว่าได้มีการรองรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญของประเทศ ผ่านการรับฟังเสียงของคนรุ่นใหม่ให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะสามารถพัฒนาประเทศชาติไปได้ ผ่านการรองรับความคิดเห็นที่หลากหลาย ซึ่งจะต้องคำนึงบริบทของสถานการณ์ COVID-19 ที่อาจส่งผลต่อความไว้วางใจของประชาชนต่อรัฐบาลได้
อ้างอิงจาก
https://www.facebook.com/AmnestyThailand/videos/1070748806833634
https://www.matichon.co.th/politics/news_3031063
#Brief #TheMATTER