เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีนักชีววิทยาชาวสวิสที่ชื่อ วิลสัน เอ็ดเวิร์ดส์ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก กล่าวหาว่า สหรัฐอเมริกาได้เข้ามาแทรกแซงและกดดันองค์การอนามัยโลก (WHO) ในปฏิบัติการค้นหาต้นกำเนิดของเชื้อ COVID-19 และหลังจากโพสต์ข้อความไม่กี่วัน สื่อของจีนจำนวนมาก รวมทั้งสำนักข่าวของรัฐบาล ก็เขียนข่าวตีแผ่คำพูดของนักชีววิทยาคนนี้
แต่ปัญหาก็คือ นักชีววิทยาคนนี้ไม่มีตัวตนอยู่จริง! ทางสถานทูตฯ สวิตเซอร์แลนด์ประจำกรุงปักกิ่ง ได้ออกมาชี้แจงตั้งแต่เกิดเรื่องแล้วว่า ไม่มีพลเมืองสวิสที่ชื่อ วิลสัน เอ็ดเวิร์ดส์ ไม่มีบทความทางวิชาการที่ใช้ชื่อนี้ในการเผยแพร่ และแอคเคาท์เฟซบุ๊กที่เกิดเรื่องนั้น ก็เพิ่งเปิดได้ไม่กี่วัน และมีเพื่อนอยู่แค่ 3 คนเท่านั้น ซึ่งเฟซบุ๊กก็ได้ลบแอคเคาท์ของวิลสัน เอ็ดเวิร์ดส์ ไปตั้งแต่เดือนสิงหาคมแล้ว
และล่าสุด เมตา แพลตฟอร์มส์ บริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก ก็ออกมาเปิดเผยว่า ได้ลบแอคเคาท์เฟซบุ๊กไปทั้งหมด 524 บัญชี, 20 เพจ, 4 กลุ่ม และแอคเคาท์อินสตาแกรมอีก 86 บัญชี หลังจากที่สืบสวนและพบว่า แอคเคาท์เหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเผยแพร่คำกล่าวอ้างของวิลสัน เอ็ดเวิร์ดส์ นักชีวชิทยาทิพย์คนนี้
เมตายังบอกอีกว่า จากแอคเคาท์ทั้งหมดนั้น พบความเชื่อมโยงกับกลุ่มคนในจีนแผ่นดินใหญ่ รวมถึงพนักงานของบริษัท Sichuan Silence Information Technology Co Ltd และกลุ่มคนที่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลจีนที่กระจายไปในประเทศต่างๆ อย่างไรก็ดี เมตาบอกว่า ยังไม่พบความเชื่อมโยงระหว่าง Sichuan Silence Information Technology กับรัฐบาลจีน
การแข่งขันกันระหว่างจีนและสหรัฐฯ ก็ยังคงเข้มข้นมากขึ้นทุกวันในหลายๆ มิติ แน่นอนว่าเรื่องอย่างการสืบสวนค้นหาต้อกำเนิดเชื้อ COVID-19 ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่อาจสร้างความได้เปรียบเสียเปรียบให้กับสองมหาอำนาจนี้ได้ ก็คงต้องจับตาดูกันต่อไปว่าจีนจะออกมาโต้ตอบในเรื่องนี้อย่างไร
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/world-asia-china-59456548
https://twitter.com/SwissEmbChina/status/1425042973289504770