หลังจากรัสเซียเริ่มใช้กำลังบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา ตัวเลขผู้ลี้ภัยที่เดินทางออกจากยูเครนก็พุ่งสูงเกินครึ่งล้านแล้ว จากข้อมูลที่เปิดเผยโดยฟิลิปโป กรันดี ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ
สำหรับตัวเลขผู้ลี้ภัยในแต่ละประเทศ ชาเบีย มานตู โฆษกของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ระบุว่า แบ่งออกเป็นผู้ที่เดินทางไปโปแลนด์อย่างน้อย 281,000 คน ฮังการีอย่างน้อย 84,500 คน มอลโดวาประมาณ 36,400 คน โรมาเนียอย่างน้อย 32,500 คน และสโลวาเกียประมาณ 30,000 คน ส่วนที่เหลือกระจัดกระจายไปในหลายๆ ประเทศในยุโรป
นอกจากนี้ UNHCR ระบุด้วยว่าอีกว่า มีคนอีกประมาณ 129,000 คนที่ได้อพยพเข้าไปในรัสเซียจากภูมิภาคดอนบาสทางภาคตะวันออกของยูเครนตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ. เมื่อตอนที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนได้ประกาศให้พลเรือนอพยพเข้าไปในรัสเซีย
ยังมีคนอีกหลายกลุ่มที่ไม่สามารถเดินทางออกจากยูเครนได้ เช่น มีพลเมืองอินเดียประมาณ 15,000 คนที่ติดอยู่ในยูเครน หรือมีรายงานว่า ชาวแอฟริกันบางกลุ่มติดอยู่ที่พรมแดนโปแลนด์เพราะต้องเผชิญกับการเหยียดสีผิว เป็นต้น นอกจากนี้ พลเรือนยูเครนเพศชายอายุ 18-60 ปีก็ไม่สามารถข้ามพรมแดนออกมาได้ เพราะมีคำสั่งห้ามออกนอกประเทศชั่วคราวภายใต้กฎอัยการศึก
การเดินทางออกนอกประเทศครั้งนี้ กรันดีให้ความเห็นว่า เป็นการอพยพคนครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรปตั้งแต่สงครามบอลข่านในช่วงทศวรรษ 1990 ขณะนี้ UNHCR คาดการณ์ว่า จะมีผู้ลี้ภัยมากถึง 4 ล้านคน ถ้าสถานการณ์ยังคงยกระดับความรุนแรงต่อไป
อ้างอิงจาก
https://www.nytimes.com/interactive/2022/world/europe/ukraine-maps.html
https://www.aljazeera.com/news/2022/2/28/500000-people-have-fled-ukraine-conflict-un