McDonald’s, Starbucks, Pepsi และ Coca-Cola กลายเป็นแบรนด์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ อีกชุดหนึ่ง ที่ประกาศระงับการขายในรัสเซีย หลังจากที่รัสเซียเริ่มใช้กำลังบุกยูเครน จนบริษัทเอกชนหลายแห่งทยอยออกมายุติการทำธุรกิจเพื่อส่งแรงกดดัน
ก่อนหน้านี้ ทั้ง 4 บริษัทต้องเผชิญกับแรงกดดันและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากยังไม่ยอมปิดร้านหรือหยุดการขายในรัสเซีย ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีแฮชแท็ก #BoycottMcDonalds #BoycottPepsi และ #BoycottCocaCola ติดเทรนด์บนทวิตเตอร์เพื่อส่งเสียงกดดันด้วย
ในรายละเอียด McDonald’s เปิดเผยว่าจะปิดร้านในรัสเซียราวๆ 850 สาขาเป็นการชั่วคราว Starbucks เองก็ประกาศปิดร้านทั้ง 100 สาขา ส่วน Pepsi ระบุว่าจะยุติการขาย Pepsi-Colar, 7UP และ Mirinda รวมถึงการลงทุนและการโฆษณาอื่นๆ แต่จะยังขายสินค้าจำเป็นอยู่ เช่น นมผงและอาหารเด็ก ขณะที่ Coca-Cola แถลงระงับการทำธุรกิจในรัสเซีย
จากการรวบรวมข้อมูลเมื่อวันที่ 8 มี.ค. ของเจฟฟรีย์ ซอนเนนเฟลด์ ศาสตราจารย์ด้านการจัดการ และทีมวิจัยที่มหาวิทยาลัยเยล มีธุรกิจ หน่วยงาน หรือสมาพันธ์อย่างน้อย 290 หน่วยงานแล้วที่ประกาศยุติการทำกิจกรรมหรือธุรกิจในรัสเซีย โดยมีธุรกิจที่น่าสนใจ เช่น Chanel, H&M, Ikea, Netflix, Nike, Prada, Spotify และอีกจำนวนมาก
การปิด McDonald’s เป็นมากกว่าเรื่องธุรกิจ เมื่อปี 1990 หลังจากที่สหภาพโซเวียตล่มสลายลง McDonald’s เข้ามาเปิดสาขาแรกที่จัตุรัสพุชกิน กรุงมอสโก ในขณะนั้น มีชาวรัสเซียหลายหมื่นคนมาอดทนรอต่อแถวเพื่อลิ้มลองรสชาตฟาสต์ฟู้ดตะวันตก
มาร์ก คาเรนา อดีตกรรมการผู้จัดการ McDonald’s Russia เคยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Voice of America ว่า การเปิด McDonald’s ในรัสเซีย เป็นมากกว่าการเปิดร้านอาหารธรรมดา “มันได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์การเปิดรับโลกตะวันตกของสหภาพโซเวียต” ในทางกลับกัน หรือว่าการปิดร้าน McDonald’s ในครั้งนี้ จะกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของการปิดรับโลกตะวันตกอีกครั้ง?
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/business-60665877
https://www.nytimes.com/2022/03/08/business/mcdonalds-russia-starbucks-pepsi-coca-cola.html
https://som.yale.edu/story/2022/over-300-companies-have-withdrawn-russia-some-remain