ขณะที่การซื้อเสื้อผ้ามาใส่ถ่ายรูปแค่ไม่กี่ครั้งดูจะสวนทางกันกับสายรักษ์โลกที่รณรงค์การใส่ซ้ำ จนกลายเป็นช่องว่างที่หาตรงกลางได้ยากแสนยาก
แต่ช่องว่างที่ว่านี้กลับกลายเป็นไอเดียที่สองผู้ก่อตั้งชาวยูเครนอย่าง ดาเรีย ชาโปวาลอฟ (Daria Shapovalova) และ นาตาเลีย โมเดอนอฟ (Natalia Modenova) เลือกหยิบมาสร้างสรรค์แบรนด์ ‘DRESSX’ เสื้อผ้าดิจิทัลสำหรับสายทำคอนเทนต์และฟาสต์แฟชั่นโดยเฉพาะ
“ถ้าเราอยากให้มันเร็วจริงๆ มันควรจะเป็นแบบดิจิทัล ดังนั้นดิจิทัลแฟชั่นจึงเป็นฟาสต์แฟชั่นรูปแบบใหม่” ชาโปวาลอฟหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งกล่าว
DRESSX เป็นสตาร์ทอัพในสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี ค.ศ.2020 โดยจุดเริ่มต้นของแบรนด์มาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะอาชีพสายอินฟลูเอนเซอร์ หรือแม้แต่คนทั่วไปที่เริ่มซื้อเสื้อผ้าเพื่อใช้ ‘ทำคอนเทนต์ลงโซเชียลมีเดีย’ กันมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาคือผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการกำจัดขยะ DRESSX จึงหยิบ pain point นี้มาพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับซื้อเสื้อผ้าเพื่อใช้บนโลกออนไลน์ด้วยขั้นตอนง่ายๆ คือ กดเข้าไปในเว็บไซต์ อัพโหลดรูปตัวเอง เลือกเสื้อผ้าสไตล์ที่ชอบ จ่ายเงิน แล้วรอประมาณ 3 วัน เพื่อให้ทีมงานออกแบบให้พอดีกับรูปร่างของคนซื้อ พร้อมกับปรับแสงเงาให้สมจริง ซึ่งราคาเฉลี่ยของเสื้อผ้าแบรนด์นี้จะอยู่ที่ประมาณ 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ข้อดีของเสื้อผ้าแบบดิจิทัล นอกจากจะช่วยให้ผู้ออกแบบปล่อยไอเดียสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่เพราะลดความกังวลเรื่องวัสดุ การดูแล การตัดเย็บ หรือการขนส่งเสื้อผ้าแล้ว ยังช่วยลดขยะจากสิ่งทอและคาร์บอนฟุตปรินต์ได้อีกด้วย เพราะจากรายงานของ Carbon Trust’s report ระบุว่าเสื้อยืดสีขาวหนึ่งตัวจะปล่อย CO2e สู่บรรยากาศ 6.5 กก. ขณะที่เสื้อผ้าของ DRESSX หนึ่งตัวปล่อย CO2e สู่บรรยากาศราว 0.312 กก. เรียกง่ายๆ ว่า เสื้อผ้าหนึ่งตัวของ DRESSX มีปริมาณคาร์บอนฟุตปรินต์น้อยกว่าการผลิตเสื้อผ้าทั่วไปที่จับต้องได้กว่า 95% แถม DRESSX ยังนำรายได้ 1% ของยอดขายทั้งหมดไปบริจาคให้กับ No More Plastic อีกด้วย
นอกจากความโดดเด่นเรื่องแนวคิดและสินค้า ล่าสุด DRESSX ยังผลิตคอลเลกชั่นใหม่อย่าง ‘Support Ukraine Collection’ ที่มีทั้งเสื้อยืด ชุดเดรส หมวก ต่างหู เพื่อนำรายจากคอลเลกชั่นนี้ไปบริจาคให้กับกองทุนการกุศลและกระทรวงกลาโหมของยูเครน บ้านเกิดของสองผู้ก่อตั้งอีกด้วย
นับว่า DRESSX เป็นอีกทางเลือกใหม่ของสายฟาสต์แฟชั่นที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และยังเป็นทางเลือกของคนที่อยากแสดงจุดยืนต่อต้านสงครามผ่านการซื้อเสื้อผ้าแล้วโพสต์รูปลงในโซเชียลมีเดียได้อีกด้วย
อ้างอิงข้อมูลจาก