การศึกษาในเยอรมนีพบว่า การแสดงรายการคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของอาหารบนเมนู กระตุ้นให้คนหันมาเลือกอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
สำหรับข้อมูลนี้จัดทำโดยมหาวิทยาลัยเวิร์ซบวร์ก ซึ่งเก็บรหัสสีเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของอาหารแต่ละมื้อ ผลปรากฏว่า ร้านที่เน้นอาหารที่มีมลพิษต่ำ อย่างเบอร์เกอร์ผัก มีแนวโน้มที่ลูกค้าเลือกทานมากกว่า
Benedikt Seger หนึ่งในหัวหน้าทีมศึกษา เล่าว่า ผู้เข้าร่วมเลือกเบอร์เกอร์ผักบ่อยขึ้น หลังจากที่มีการระบุคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ทั้งที่ปกติเบอร์เกอร์เนื้อได้รับความนิยมสูงกว่าก็ตาม
โดยอาสาสมัครทั้งหมด 265 คนที่เข้าร่วม จะได้รับข้อมูล 9 เมนูอาหารที่บอกระดับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น สลัดคูสคูสกับเนื้อวัว (ปล่อยมลพิษสูง) ไก่ (ปล่อยมลพิษปานกลาง) หรือฟาลาเฟล (ปล่อยมลพิษต่ำ) ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น คือ ผู้เข้าร่วมเลือกอาหารที่เป็นมิตรกับสภาพอากาศมากขึ้นเมื่อมีฉลาก ส่งผลให้มีคาร์บอนน้อยลงโดยเฉลี่ย 200 กรัมต่อมื้อ
นักวิจัยยังบอกอีกว่า นี่แสดงให้เห็นว่าผู้คนเต็มใจ ที่จะร่วมมือแก้ปัญหาวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นสิ่งเร่งด่วน ผ่านการตัดสินใจเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน อย่างการสั่งอาหาร
“หากร้านอาหารเน้นเมนูเบอร์เกอร์ผักเป็นตัวเลือกต้นๆ ของเมนู แทนที่จะเน้นเนื้อบด แสดงให้เห็นว่าลูกค้าที่ร้านอาหารนี้มักจะสั่งเบอร์เกอร์ผัก” นี่เป็นหลักจิตวิทยาที่พูดถึงกลุ่มอ้างอิงที่มีแนวโน้มจะทำตาม
สำหรับฉลากคาร์บอนนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นนโยบายที่ใช้กันมานานกว่าสิบปีกันแล้ว ทั้งสวิตเซอร์แลนด์ อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน เนเธอร์แลนด์ แคนาดา เกาหลีใต้ หรือในบางรัฐของสหรัฐฯ ซึ่งไทยเองก็ใช้ฉลากคาร์บอนมาตั้งแต่ปี ค.ศ.2008 แล้วเช่นกัน
โดยจุดเริ่มต้นของการติดฉลากคาร์บอน มาจากฉลากสิ่งแวดล้อม (Eco-label) ที่ต้องการแสดงว่าสินค้านั้นๆ มีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหรือไม่ บางส่วนแสดงให้เห็นถึงกระบวนการผลิต ตั้งแต่วัตถุดิบจนถึงซากผลิตภัณฑ์ว่าจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมใดๆ
อ้างอิงจาก
https://www.independent.co.uk/climate-change/news/carbon-food-climate-b2077308.html
https://www.businessinsider.in/sustainability/news/dishs-carbon-emission-data-on-the-menu-can-promote-climate-friendly-choices-among-diners-study/articleshow/91544825.cms
https://journals.plos.org/climate/article?id=10.1371/journal.pclm.0000028
#Brief #TheMATTER